3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้
ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,645-1,660 จุด หลังจากปรับลงแรงวานนี้ทั้งแรงกดดันหลัง FED ส่งสัญญาณนโยบายการเงินตึงตัว โดยเฉพาะการพูดถึงเรื่องลดขนาดงบดุล รวมถึงสถานการณ์โอมิครอนในประเทศที่เริ่มเร่งตัวอย่างมีนัยยะ อย่างไรก็ตามประเมินว่าอาจเห็นมาตรการควบคุมเป็นจุดๆ บางส่วน แต่ไม่ถึงขั้น Lockdown เหมือนกลางปีก่อน ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและ SET Index คาดว่าจะไม่รุนแรง
กลยุทธ์จึงเน้นสะสมหุ้นในช่วงพักฐานลงใกล้ 1,600 จุด ส่วนระยะสั้นเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและกลุ่ม Value Play มี PER ไม่สูง ส่วนกลุ่มพลังงานคาดหนุนตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่ง
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนโดยเน้นหุ้น Value และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเด่นเดือนม.ค. : CK, EA, HMPRO, KBANK, ORI
หุ้นเด่นวันนี้:SC
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท
• ระยะสั้นคาดกำไร 4Q21 เร่งขึ้นทั้ง +30% Q-Q, +50% Y-Y และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีจาก Backlog 5.2 พันลบ. และคาดทั้งปีรายได้ทะลุเป้าที่ 1.9 หมื่นลบ. เราคาดกำไรปี 2021 +9% Y-Y
• ปี 2022 จะเป็นปีที่ดีจากการเริ่มรับรู้คอนโดใหม่ 3 แห่งและแผนเปิดโครงการเชิงรุกรวม 2 หมื่นลบ. เราคาดกำไรปี 2022 +10% Y-Y จุดเด่นคือ Valuation ถูกโดยเทรด PER และ PBV ต่ำเพียง 6 เท่าและ 0.7 เท่า และจ่ายปันผลปีละครั้ง Yield 6%
• แนวรับ 3.40-3.36 บาท แนวต้าน 3.48-3.50//3.60-3.70 บาท
**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ส่องดัชนี SET อยู่ในช่วงปรับฐานรอประเมินสถานกาณ์ระบาด Omicron แต่คาดจะไม่มีการใช้ม.ล็อกดาวน์ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,640 จุด แนวต้าน 1,660 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร IMH, SMD, TM ได้ประโยชน์จากการขายชุดตรวจ ATK
SMD* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.20 บาท) การเร่งตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศหลังปีใหม่ ทำให้การตรวจคัดกรองเชื้อ COVID-19 ด้วยตัวเองผ่านชุดเครื่องตรวจ ATK กลายเป็นสินค้าจำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่เดินทางเป็นประจำ รวมถึงบางสถานที่ยังเพิ่มความเข้มงวดตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนเข้ารับบริการ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท จากแนวโน้มปี 64 คาดว่าจะทำรายได้ที่ราว 1.55 พันล้านบาท เนื่องจากความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้จากการขายจากการขายชุดตรวจ ATK ให้กับหน่วยงานราชการและร้านสะดวกซื้อ 7-11
KTB* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.68 บาท) มองความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยโดย สนค. ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือน พ.ย. 45.2 จุด สู่ ธ.ค.ที่ 47.0 จุด ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับแต่จุดต่ำสุดราวเดือน ก.ค. 64 และแนวโน้ม 3 เดิอนข้างหน้ายังคาดการณ์อาจสูงขึ้นสู่ระดับ 53.2 ทำให้คาดกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากแนวโน้มสินเชื่อที่จะเริ่มฟื้นตัว กอปรแนวโน้มดอกเบี้ยโลกขาขึ้น หลังรายงานการประชุมเฟดรอบ ธ.ค. ที่ผ่านมาสะท้อนการเร่งรัดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นแรงหนุนกลุ่มธนาคารจากส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝาก-กู้ยืม และคาดบริษัทอาจได้ประโยชน์หากภาครัฐออกนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีฯ มีโอกาส Rebound หลังจากเกิดแรงขายหนักวันก่อน และตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงไม่มากในคืนที่ผ่านมา นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว(ของตลาดหุ้นไทย)
นักลงทุนสหรัฐฯ กลัวFed ที่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และมีการใช้ QT แต่สะท้อนไปในตลาดไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังไม่กล้าที่จะรีบเข้าซื้อหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยง เรามองว่า Flow ที่เคยคาดว่าจะไหลเข้าตลาดเอเซียอาจจะหยุดชะงักไปในช่วงนี้
การออกมาตรการยกระดับควบคุมการระบาดโควิด-19 ที่เข้มงวดมากขึ้นของสาธารณสุข เป็นระดับ 4 อาจจะทำให้นักลงทุนทยอยขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง
ตัวเลขเศรษฐกิจ วันนี้ คือ นายกฯเข้าประชุม ศบค. และบอร์ด EEC และตัวเลขการจ้างงานอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ
Strategy
• แรงขายน่าจะลดลงในวันนี้ แต่ดัชนีฯจะบวกได้ไม่ไกล เพราะตัวกดดันมีทั้ง Fed และมาตรการ Omicron
• การเข้าซื้อหุ้น เลือกที่ราคาลงมามากและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวไว้ก่อน โดยเป็นการทยอยซื้อ โดยครั้งต่อไปรอดูต้นสัปด์หน้าว่าความกังวลที่มีอยู่ในตลาด จะลดลงหรือไม่ (เรามองว่าดัชนีฯรอบนี้ ไม่น่าลงไปต่ำกว่า 1630 จุด)
• พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำ SCB, BEC ออก และเพิ่ม TU เข้ามาแทน พอร์ตหุ้นประกอบด้วย TU(10%), BLA*(15%), IVL(10%), JR*(10%), ITEL*(10%), JMART*(10%), WICE(10%)
Strategy Stock Pick
TU: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 21.50 บาท) “ตั้งเป้ารายได้ปี 22 โต 20%YoY รับ Demand ที่ฟื้นตัว, ธุรกิจอาหารสัตว์เด่น”
• แนวโน้มรายได้ปี 22 โตรับ Demand ทั่วโลกฟื้น โดยยอดขายในต่างประเทศจะโดดเด่น คาดธุรกิจมาร์จิ้นดีในกลุ่มอาหารสัตว์โดดเด่น
• วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ในปี ‘22-‘24 ราว 3.6 หมื่น ตัน/ปี และอีก 3.6 หมื่น ตัน/ปี นับตั้งแต่ปี ’25 พร้อมจับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายกำลังการผลิตและฐานลูกค้าเพิ่มเติม
• KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2021-2022 ที่ 7.66 พัน ลบ. และ 8 พัน ลบ. +22.8%YoY, +5.4%YoY ตามลำดับ
Technical : ICN, PROEN