เกาหลีใต้ ลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนโควิด ก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลก
South Korea: เกาหลีใต้ประกาศจะลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6.4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2025 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตวัคซีนของโลก
ประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศจะทุ่มงบประมาณ 1,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6.14 หมื่นล้านบาท เพื่อทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใน 4 ปีข้างหน้า
มุน กล่าวว่า เราจะพยายามก้าวกระโดด เพื่อขึ้นเป็น 1 ในผู้ผลิตวัคซีน 5 อันดับแรกของโลก ภายในปี 2025 โดยรัฐบาลจะกำหนดให้วัคซีนต้านโควิด-19 เป็น 1 ใน 3 เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ระดับชาติ ร่วมกับเซมิคอนดักเตอร์และแบตเตอรี
นอกจากนี้ มุนจะเพิ่มการลงทุนและกำหนดให้วัคซีนต้านโควิด-19 เป็น 1 ใน 3 เทคโนโลยีเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติ ผู้นำเกาหลีใต้ ยังระบุถึงการลดหย่อนภาษีและสิ่งจูงใจอื่น ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตวัคซีนด้วย
ท่าทีของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ดังกล่าว มีขึ้นในที่ประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสำรวจวิธีการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนและความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีนทั่วโลก
คณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และวัคซีน, ผู้ร่วมทุน และบริษัทผู้ผลิตยา ซึ่งรวมถึง SK Bioscience, Samsung Biologics, ST Pharm และ Ecell
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลเกาหลี มีขึ้นท่ามกลางการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ที่มีสายพันธุ์ Delta เป็นหลัก และเพิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ Delta Plus จำนวน 2 คน ทำให้ทางการต้องยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามเมืองต่าง ๆ
หน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดแห่งเกาหลีใต้ หรือ KDCA เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ Delta Plus รายแรกในประเทศ เป็นชายอายุ 40 ปี ที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปไหน ขณะที่ ผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ โดยได้รับฉีดวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็มก่อนเดินทาง
ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อสะสมในเกาหลีใต้เกิน 2 แสนคนแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตสะสม 2,109 คน และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วน 14.3% ของประชากรทั้งหมด