เปิดความอันตราย "ฝีดาษลิง" ระบาดคล้ายโควิด หาก "ติดฝีดาษลิง" ต้องกักตัว 21 วัน
ฝีดาษลิงเข้าไทยแล้ว หลังจากได้รับแจ้งจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต พบผู้ป่วยสงสัยโรคฝีดาษวานร เดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ทำให้ไทยต้องจับตา "โรคฝีดาษลิง" หรือ Monkeypox ต่อเนื่อง โดย "ฝีดาษลิง" เป็นไวรัสที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากสามารถแพร่ระบาดง่าย คล้าย "โควิด-19" หาก "ติดฝีดาษลิง" ต้องกักตัว 21 วัน ดังนั้นการป้องกัน "ฝีดาษลิง" จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิงจากการไอ จาม
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้สัมภาษณ์ Hfocus เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ระบุว่า ฝีดาษลิง แพร่ระบาดแตกต่างจากอดีต เนื่องจากปี 2018-2019 คนที่มาจากประเทศต้นตอติดเชื้อฝีดาษลิงในแอฟริกา และไปประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ ขณะนั้นกลับพบว่ามีการติดเชื้อฝีดาษลิงเป็นกระจุก จากนั้นโรคฝีดาษลิงก็สงบลง และยิ่งมีการเปิดประเทศยิ่งต้องระวัง อีกประการคือ คนที่ติดเชื้อรายแรกๆ ของประเทศก็มีประวัติชัดเจนว่า มาจากประเทศต้นตอ แต่ผู้ป่วยหลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่า หาประวัติสัมผัสโรคไม่ได้ คล้ายๆโควิดที่มีการระบาดวงกว้างที่หาต้นตอไม่ได้ แสดงว่าอาจเป็นไปได้ที่ติดในชุมชน จึงต้องมีมาตรการเข้มงวดขึ้น
"ฝีดาษลิง" อันตรายไหม
ความสามารถในการแพร่ติดต่อของฝีดาษลิง ยังอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่คลุกคลี จะติดทุกคน แต่ต้องกักตัว 21 วัน เมื่อทราบว่าได้สัมผัสเชื้อ
โดยอาการฝีดาษลิงจะเป็นไข้ก่อน ปวดหัวปวดเมื่อยปวดหลัง จากนั้นประมาณ 1 วันขึ้นไป หรืออาจ 3-4 วันก็จะมีผื่นตุ่มหนองขึ้นบริเวณใบหน้า มือ แขนขา ลำตัว ซึ่งลักษณะแบบนี้คนที่ติดเชื้อและมีอาการจะรู้ตัวอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่มีไข้จึงควรจำกัดตัวเอง ไม่ไปสุงสิงกับผู้อื่นเลย และคนรอบๆก็สามารถสังเกตเห็นได้ ก็ต้องแยกตัวออกห่าง และเตือนให้รีบพบแพทย์
แต่ที่มีการติดเชื้อในต่างประเทศเข้าใจว่า อาจคิดว่าป่วยเป็นไข้หวัด เพราะมีอาการคล้ายกัน แม้แต่โควิดระยะหลังอาการก็ไม่รุนแรงอาจทำให้ชะล่าใจได้
ซึ่งทางศ.นพ.ธีระวัฒน์ ระบุว่า แม้โรคฝีดาษลิง จะมีความสามารถในการติดต่อจากคนสู่คนได้ แต่การปล่อยเชื้อไม่ใช่ว่า ทุกคนจะติด การแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนยังค่อนข้างต่ำ จึงทำให้ตอบไม่ได้ชัดเจน ว่า เพราะเหตุใดในต่างประเทศจึงมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"ฝีดาษลิง" เหมือน "โควิด" ไหม?
สามารถติดได้จากการไอ จาม พูดคุย มีละอองฝอยกระจาย แต่ยังสามารถติดต่อได้จากเพศสัมพันธ์ทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศ รวมทั้งติดจากเลือด สารคัดหลั่ง และยังมีรายงานว่าสามารถติดจากการสัมผัสสิ่งของของผู้ป่วย ส่วนเชื้อจะอยู่บริเวณสิ่งของนานแค่ไหนยังไม่มีรายงานออกมาจากต่างประเทศ ต้องจับตามองต่อไป
"ฝีดาษลิง" เข้าไทยไหม
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ระบุว่า แม้ไทยจะยังไม่พบโรคนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงได้จากการเปิดประเทศ แต่ไม่เปิดก็ไม่ได้ ดังนั้น ต้องมีมาตรการรัดกุม โดยในส่วนของสนามบินเดิมจะตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามา แต่มีช่วงหนึ่งที่โควิดเริ่มเปลี่ยนไปที่การวัดอุณหภูมิอาจไม่ใช่อาการหลัก แต่ฝีดาษลิง การเป็นไข้ถือเป็นอาการหลัก ดังนั้น เครื่องวัดอุณหภูมิจะช่วยคัดกรองได้อันดับแรกๆ รวมทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย ยังจำเป็นมาก เพราะไม่ใช่ป้องกันโควิด ป้องกันโรคทางเดินหายใจอื่นๆ แต่ฝีดาษลิงก็ยังช่วยได้
ยารักษาโรคฝีดาษลิง
โรคนี้ยังไม่มียารักษา เป็นเพียงการรักษาตามอาการ แต่สามารถสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคได้ และหากติดฝีดาษลิง ทางประเทศไทยก็มีศักยภาพในการตรวจหาเชื้อนี้ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ของจุฬาฯ สามารถตรวจไวรัสจากฝีดาษลิงได้ โดยใช้ระยะเวลา 1-2 วัน
ข้อมูล Hfocus
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<