รีเซต

ธีม Q3 หุ้นอะไรดี โบรกมีคำแนะนำ

ธีม Q3 หุ้นอะไรดี โบรกมีคำแนะนำ
ทันหุ้น
2 กรกฎาคม 2567 ( 11:21 )
12
ธีม Q3 หุ้นอะไรดี โบรกมีคำแนะนำ

#บล.เมย์แบงก์ #ทันหุ้น - ธีม Q3 หุ้นอะไรดี โบรกมีคำแนะนำ

 

 

ปัจจัยหนุนเริ่มมาแล้ว

แม้ว่าดัชนี SET Index จะยังดูไม่ค่อยมีแรงวิ่ง แต่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกและคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการเติบโตของภาค คการท่องเที่ยวจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางศรษฐกิจและมเมนตัมของกำไร ตามที่เรารายงานไปก่อนหน้านี้ เชื่อว่าปัญหาทางการเมืองน่าจะคลี่คลายได้ในเร็วๆ นี้ และด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง (แนวโน้มการเติบโตที่ดี Valuation ที่ไม่แพง) เชื่อว่า SET Index ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ใน 2H67 

 

บล.เมย์แบงก์ นำเสนอ 3ธีมหลักสำหรับการลงทุนใน 3Q24 ดังนี้ 

 

1) เน้นหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน/รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน TASCO, SCCC, CK

คาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการลงทุนของรัฐบาล (capex) จะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญใน 3067 โดย ณ วันที่ 21 มิถุนายน การเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งรวมถึงใบสั่งซื้อ (PO) สูงถึง 52% ของงบประมาณปิ้งบประมาณ 67 เพิ่มขึ้นจากเพียง 18% ณสิ้นเดือน มี.ค. TASCO ยังคงเป็นหุ้นเด่นสุดสำหรับธีมนี้ เนื่องจากปริมาณอาจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า Q๐Q ใน 2067 ขณะที่อัตรากำไรของยางมะตอยซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 บาท/ตัน

 

ในเดือน พ.ค.จาก 8.600 บาทในเดือน มี.ค. ขณะที่ตรมาส 3/67 มีแนวโน้มจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นนอกจากนี้ เรายังชอบ SCCC เนื่องจากเราคาดว่าราคาปูนซีเมนต์จะสูงขึ้นและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สุดท้าย เราชอบ CK จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งน่าจะมี Backlog เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากระดับปัจจุบันที่ 1.20 แสนล้านบาท ราคาหุ้น CK ร่วงแรงท่มกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองแม้จะมีปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น และมองว่านี่เป็นโอกาสในการซื้อ

 

กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, BH
 

ยังคงมั่นใจในด้านการท่องเที่ยวและคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน และ 41 ล้านคนในปี 67-68 หลังจากผ่านช่วงโลว์ซีซั่นใน 2067 เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโตต่อไปจนถึงปลาย 1068 ปัจจัยนี้คาดว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นและผลักตันการเติบโตของรายได้สำหรับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้ นอกจาก AOT แล้ว ยังเลือกCENTEL และ BH เป็นหุ้นเด่นของเราอีกด้วย โดยประเมินว่า CENTEL จะ มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งโดยด้รับแรงหนุนจากโรงแรมในญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ยังคาดว่า BH จะมีกำไรเติบโต 15% ในปี 67 โดยได้แรงหนุนจากการขยายความจุเตียงและการปรับขึ้นราคา BH ได้รับประโยชน์สูงสุดจากบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการรักษาพยาบาลระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติสูงที่สุด

 

 

กลุ่มอัตรากำไรเพิ่มขึ้น GPSC, ADVANC

 

มองว่าการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นตันเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของกำไรของตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในปี 67 จากการวิเคราะห์กลุ่มหลักทรัพย์ที่เราศึกษา ซึ่งไม่รวมกลุ่มธนาคารและการเงิน พบว่าเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มพลังงานและยานยนต์ มีแนวโน้มที่จะเห็นการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นตันในปี 67โดยรวมแล้ว อัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็น 4.81% และ 5.36% ในปี 67-68 จาก 4.35% ในปี 66 ซึ่งจะช่วยผลักตันการเติบโตของกำไรในกลุ่มหลักทรัพย์ที่เราวิเคราะห์ (ยกเว้นกลุ่มธนาคารและการเงิน) ให้เพิ่มขึ้น 16% และ 13% แม้ว่ารายได้รวมจะเติบโตเพียง 5% และ 2% และตันทุนของเงินทุนที่สูงขึ้น หุ้นที่คิดว่าได้ประโยชน์สูงสุดจากเทรนต์นี้คือ GPSC และ ADVANC

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง