"Tesla" ยอดร่วงสวนทาง "BYD" ชะลอแข่งเดือด EV ราคาประหยัด

สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (China Passenger Car Association – CPCA) เปิดเผยตัวเลขล่าสุดว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนของ Tesla ในเดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ 61,497 คัน ลดลง ร้อยละ 9.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และถือเป็นการพลิกกลับจากการเติบโตร้อยละ 2.8 ที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับรถรุ่น Model 3 และ Model Y ที่ผลิตจากโรงงาน Gigafactory เซี่ยงไฮ้ ซึ่ง Tesla ใช้เป็นฐานการผลิตสำคัญสำหรับส่งออกไปยุโรป อินเดีย และตลาดอื่นทั่วโลก โดยยอดขายของสองรุ่นนี้ลดลงถึงร้อยละ 32.3 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันจากตลาดต่างประเทศที่เริ่มมีคู่แข่ง EV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla รายงานยอดขายทั่วโลกลดลงร้อยละ 12 ในเดือนตุลาคม เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง และถือเป็นการปรับตัวลงแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดภายในประเทศ ซึ่งมีผู้ผลิต EV มากกว่า 100 รายกำลังต่อสู้กันด้านราคาและโปรโมชัน

แม้ Tesla จะเปิดตัวรุ่นปรับลดต้นทุนของ Model 3 และ Model Y ในระดับสากลเมื่อเดือนก่อน แต่บริษัทยังไม่ได้กำหนดวันจำหน่ายรุ่นดังกล่าวในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีการแข่งขันสูงสุด การเปิดตัวล่าช้าอาจส่งผลให้ Tesla เสียเปรียบคู่แข่งท้องถิ่นที่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีต่อเนื่อง

ในยุโรป แม้ Tesla จะเร่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ราคาย่อมเยา แต่ยอดขายในหลายประเทศยังคงชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีการนำเข้ารถ EV ราคาประหยัดจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงสภาพการแข่งขันที่อิ่มตัวและความกังวลของผู้บริโภคต่อราคาพลังงานและนโยบายสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป

ในทางกลับกัน BYD กลับมีแนวโน้มเติบโตดีในยุโรป แม้ยอดขายในประเทศจีนจะชะลอตัว โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายจำหน่ายในเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานตลาดใหม่ในภูมิภาคที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด

ในภาพรวม แม้ยอดขายเดือนตุลาคมจะสะท้อนแรงกดดันจากตลาดที่อิ่มตัว แต่จีนยังคงเป็นตลาด EV ที่สำคัญที่สุดของ Tesla และยังมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว หากบริษัทสามารถสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมระดับโลกและกลยุทธ์ราคาเชิงท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้ชะตาการแข่งขันของ Tesla ในปี 2569 ต่อไป