รวมฉากสุดประทับใจในซีรีส์ God of War ที่หลายคนจดจำมาจนถึงตอนนี้
พอมาถึงช่วงปลายปีค่ายเกมต่าง ๆ ก็เริ่มขนเกมเกรด ‘AAA’ มาวางจำหน่ายแข่งกัน หนึ่งในนั้นก็คือเกมโล้นหนวดควงลูกหวดทวยเทพอย่าง ‘God of War Ragnarok’ ที่เมื่อตัวเกมถูกปล่อยออกมาก็ได้คะแนนวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกสูงจนหลายคนต่างคิดว่าเกม ‘God of War Ragnarok’ กับเกมโคตรโหดกระโดดฟันในโลกเปิดอย่าง ‘Elden Ring’ ใครจะเป็นผู้ชนะคว้ารางวัลเกมแห่งปีในคราวนี้ไป แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้นเรามาย้อนดูเรื่องราวความน่าประทับใจของฉากต่าง ๆ ในซีรีส์ ‘God of War’ กันดีกว่า ว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้เราได้เห็นฉากที่ยิ่งใหญ่อลังการขนาดขนยักษ์ตัวเท่าภูเขามาใส่ในเกม หรือฉากต่อสู้ที่แสนน่าประทับใจที่เราคนเล่นเห็นครั้งแรกต้องร้องอุทานออกมาว่า เกมนี้ยิ่งใหญ่สมชื่อ ‘God of War’ จริง ๆ จะมีฉากไหนจากเกมภาคใดที่สร้างความประทับใจแรกเห็น หรือฉากที่เราคนเล่นจดจำได้บ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย
Cronos ปรากฏตัว จาก God of War 1
เริ่มต้นฉากแรกที่เชื่อว่าหลายคนที่ได้เล่นเกม ‘God of War’ ภาคแรกเมื่อปี 2005 ต่างต้องเคยอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้เห็นฉากที่ เครโทส (Kratos) เปาแตรเรียกบางอย่างในทะเลทรายให้ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมา ที่ในตอนนั้นใครจะไปคิดว่าสิ่งที่ปรากฏตัวออกมานั้นจะเป็นยักษ์ไททันขนาดใหญ่ที่แบกภูเขาทั้งลูกเอาไว้ (ตัวเครโทสตัวเท่ามด) โดยยักษ์ตนนี้มีชื่อว่า โครนอส (Cronos) ผู้นำและคนสุดท้ายของเหล่าไททันที่สู้ศึกระหว่างเทพกับยักษ์ในอดีต ซึ่งเมื่อสงครามจบลงโครนอสก็ถูกจับมาจองจำที่ทะเลทรายและต้องแบกภูเขาที่มีวิหาร ‘Pandora’ อยู่บนหลัง ซึ่งผู้เล่นเกมต่างรู้สึกอึ้งทึ่งกับความยิ่งใหญ่ของยักษ์ไททันว่ามันจะใหญ่ได้ขนาดนี้เลย จนทำให้ฉากการปรากฏตัวของโครนอสกลายเป็นที่จดจำของแฟนเกมซีรีส์ ‘God of War’ ไปในทันที
การต่อสู้กับ Colossus of Rhodes จาก God of War 2
เมื่อภาคแรกทำเอาหลายคนตื่นตาตื่นใจกับเหล่ายักษ์และการต่อสู้ของเทพเจ้ากันไปแล้ว พอมาใน ‘God of War 2’ ทางทีมงานก็เล่นใหญ่ขึ้นไปอีกกับการยกรูปปั้น ‘Colossus of Rhodes’ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์มาใส่ในเกม ที่เราจะได้สู้กับรูปปั้นยักษ์ขนาดเกือบเท่ายักษ์ไททันในภาคแรกตั้งแต่ต้นเกม ที่สร้างความรู้สึกยิ่งใหญ่สมกับเกมเล่นใหญ่ไฟกระพริบแบบนี้ ที่แม้แต่คนที่ไม่เคยเล่น ‘God of War’ ภาคแรกมาก่อนพอเปิดเกมมาแล้วได้สู้กับรูปปั้นยักษ์ขนาดนี้ตั้งแต่ต้นเกม เป็นใครก็คงตาลุกวาวด้วยความประหลาดใจ และยิ่งเรารู้ว่ารูปปั้นทองเหลืองนี้เคยมีอยู่จริงก็ยิ่งสร้างความตกใจให้เรา ที่คิดว่าคนสมัยโบราณเขาเก่งมาก ๆ ที่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดเทียบเท่าเทพีเสรีภาพในยุคนี้ได้ แต่สุดท้ายก็โดนเฮียโล้นที่เป็นเทพแห่งสงครามยำจนเละ ทั้งที่จะตัวเล็กกว่าแต่ก็สามารถสู้กับรูปปั้นยักษ์ได้อย่างสบาย ๆ จนฉากนี้เป็นหนึ่งในฉากที่แฟน ๆ ประทับใจไม่รู้ลืม
Prison of the Damned การต่อสู้บนตัว Hecatonchires จาก God of War Ascension
หลังจากที่ทีมงานเกมซีรีส์ ‘God of War’ ทำอะไรใหญ่ ๆ เยอะ ๆ มามาก ทำให้คนเล่นเกมเริ่มคุ้นเคยจนเราแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วตอนที่เห็นเทพตัวใหญ่ ๆ หรือสู้กับยักษ์ไททันที่ก็สู้มาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนคนเล่นไม่รู้สึกตื่นตาตื่นใจแล้ว ทางทีมพัฒนาดูเหมือนจะรู้ในข้อนี้ดี เลยจัดอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่าเดิมกับการต่อสู้บนตัวยักษ์ 100 แขนอย่าง เฮคาทอนชิเรส (Hecatonchires) หนึ่งในยักษ์ไททันที่ร่วมสงครามในอดีต ซึ่งเป็นหนึ่งในสามแกนนำในการโค่นล้มเทพเจ้าก่อนจะพ่ายแพ้และถูกจับขังเพื่อสร้างเป็นเรือนจำผู้ถูกสาป ‘Prison of the Damned’ ในเกม ‘God of War Ascension’ ที่พอเปิดเกมมาเราก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของยักษ์ไททันตนนี้ที่มีขนาดใหญ่กว่าไททันตนอื่น ๆ หลายเท่า ซึ่งเครโทสต้องต่อสู้กับแขนของเฮคาทอนชิเรส ก่อนจะขึ้นไปยังหัวและปลิดชีพยักษ์ตนนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น ที่ในตอนนั้นแม้คนที่เล่นเกม ‘God of War’ มาทุกภาค พอมาเห็นยักษ์ไททันร้อยแขนตนนี้เป็นใครก็อึ้งกันทุกคน
งูยักษ์ Jormungandr จาก God of War ปี 2018
ยังคงวนเวียนอยู่กับความใหญ่ที่เล่นเอาคนรักงูทั้งหลายต่างขนหัวลุก กับขนาดใหญ่โตดุดันน่ากลัวของเทพงู ยอร์มุงกันเดอร์ (Jormungandr) จาก ‘God of War’ ปี 2018 ที่ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารเกมในตอนนั้น คงจะได้เห็นพี่งูยักษ์ตนนี้ในตัวอย่างกันไปแล้ว ที่บอกเลยว่างานนี้ทีมงาน ‘Santa Monica Studio’ ก็ยังคงบ้าความใหญ่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากยักษ์มาเป็นงูแทน ที่หลายคนในตอนนั้นต่างคิดไปว่าถ้าเครโทสได้สู้กับพี่งูตนนี้คงจะน่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่น่าเสียดายที่เราจะทำได้แค่เข้าไปในท้องพี่เขาเท่านั้น และด้วยขนาดของพี่งูยอร์มุงกันเดอร์ที่ใหญ่โตมาก ๆ จึงทำให้เราเห็นพี่เขาในฉากที่แม้จะเห็นไกล ๆ ยังตัวใหญ่ขนาดนี้ พอพี่เขามาใกล้ ๆ ยิ่งตัวใหญ่และโคตรน่ากลัวมากขึ้นไปอีก ที่ทำเอาผู้เล่นที่เคยชินกับของใหญ่ ๆ มาแล้ว ก็ยังคงอึ้งทึ่งตะลึงพรึงเพริดตระการตากับขนาดของพีเขาอยู่ดี ซึ่งเราก็หวังว่าใน ‘God of War Ragnarok’ จะมีอะไรให้เราตกใจกับขนาดอีกรึเปล่าต้องมารอดูกัน
ได้ Blades of Chaos กลับมา จาก God of War ปี 2018
เปลี่ยนจากอะไรที่มันใหญ่ ๆ มาเป็นฉากที่หลายคนประทับในกันบ้าง กับการกลับมาอีกครั้งของดาบคู่ ‘Blades of Chaos’ ที่หลายคนต่างคิดว่ามันคงจะไม่กลับมาอีกแล้วในเกม ‘God of War’ ในปี 2018 ที่ตามเนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ พี่โล้นเครโทสของเราได้ทิ้งอดีตที่ไม่น่าจดจำและหันมาสร้างเนื้อสร้างตัวมีภรรยาและลูกชาย พร้อมกับใช้อาวุธใหม่อย่างขวานคู่ใจในการต่อสู้ จนเมื่อเกมดำเนินมาถึงช่วงกลางเกมเราจะได้กลับมาที่บ้านหลังเดิมที่เครโทสอยู่กับลูกชาย ที่ในบ้านหลังนั้นได้ซ่อนดาบคู่ใจอย่าง ‘Blades of Chaos’ ที่คนเล่นเกมภาคเก่าคุ้นเคยให้กลับมาอีกครั้ง ที่ทำเอาแฟนเก่าที่เคยเล่นต่างน้ำตาไหลรินเพราะคิดถึงอดีต ที่เคยใช้ดาบโซ่คู่ใจเล่มนี้ฟาดฟันเจาะตาฉีกเนื้อตัดแขนขาศัตรูมาเป็นพัน ๆ ตัวในเกม และเราก็จะได้ใช้ดาบคู่ใจตั้งแต่ต้นเกมในภาค ‘God of War Ragnarok’ อีกด้วย
ทอดทิ้งลูก The Fields of Elysium จาก God of War Chains of Olympus
เมื่อพูดถึงซีรีส์ ‘God of War’ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าปมใหญ่ ๆ ในชีวิตของเครโทสที่แก้ไม่หายไปจากใจ นั่นคือเรื่องราวการเสียชีวิตของครอบครัวตัวเอง ที่ในตอนนั้นเครโทสถูกเทพแห่งสงครามสะกดจิตให้ฆ่าครอบครัวตัวเองจนกลายเป็นปมในใจเรื่อยมา และพอมาถึงภาค ‘God of War Chains of Olympus’ ตัวของเครโทสเราต้องลงไปในขุมนรกและได้ไปถึง ‘The Fields of Elysium’ ซึ่งเป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามที่เป็นดินแดนของคนที่ทำคุณงามความดีก็จะได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ ที่เป็นเหมือนสวรรค์ในดินแดนนรก และที่นั่นเครโทสได้เจอกับลูกสาวของตนเป็นครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเครโทสต้องเลือกระหว่างหน้าที่ในการไปแก้ไขปัญหาที่จะส่งผลต่อโลก หรือจะเลือกอยู่ในนรกกับลูกสาวต่อไป กับการกดปุ่ม “O” เพื่อผลักไสลูกสาวที่มากอดตนด้วยความรู้สึกชอกช้ำและต้องลาจากลูกสาวอีกครั้ง โดยมีเสียงร้องด้วยความเสียใจของลูกอยู่ข้างหลัง ฉากนี้จึงเป็นหนึ่งในฉากที่แฟน ๆ เกมสะเทือนใจจนคนเล่นเกมซีรีส์นี้จดจำได้ไม่รู้ลืม
ชื่อที่แท้จริงของ Atreus จาก God of War ปี 2018
อีกหนึ่งฉากสุดประทับใจในภาค ‘God of War’ เมื่อปี 2018 นั่นคือการเฉลยเรื่องราวในเกม ที่ในตอนแรกนั้นตัวเกมภาคนี้ไม่ได้บอกอะไรเราเลย ว่าการเดินทางในครั้งนี้ของสองพ่อลูกคืออะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับทวยเทพที่มาตามล่า เพราะเมื่อดูจากเนื้อเรื่องก็แทบไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่ยิ่งใหญ่เลย ก็เป็นแค่ชายหัวโล้นหนีคดีกับเด็กชายบอย ที่ออกเดินทางเอาเถ้ากระดูกภรรยาและแม่ของตนมาโปรยที่ยอดเขาที่สูงที่สุดเท่านั้น แต่ก่อนออกเดินทางของสองพ่อลูกก็มีเทพเจ้ามาขัดขวางการเดินทางครั้งนี้ ซึ่งเรามาทราบภายหลังว่าคนที่ส่งเทพมาขัดขวางก็คือเทพเจ้าค้อนสายฟ้า ธอร์ (Thor) เป็นคนอยู่เบื้องหลัง จนคนเล่นทุกคนต่างงุนงงว่าจะมาตามล่าสองพ่อลูกทำไม ซึ่งทุกคนในตอนนั้นต่างคิดว่าเป้าหมายของธอร์คือเครโทสอย่างแน่นอน เพราะเมื่อพี่แกฆ่าเทพฝั่งนั้นมาหมดเทพฝั่งนี้ก็คงไม่รอดเลยต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม (นั่นคือสิ่งที่แฟน ๆ คิดก่อนได้เล่นเกม) แต่พอตอนท้ายเกมเมื่อเรื่องราวเฉลยออกมาว่าชื่อที่แท้จริงของ เอเทรียส (Atreus) หรือบอยที่เรารู้จักนั้น ความจริงแล้วเขามีชื่อว่า โลกิ (Loki) ที่เป็นน้องชายของธอร์ตามตำนาน ที่เมื่อทุกอย่างเฉลยออกมาทุกคนต่างก็ขนลุกขึ้นมาทันที เพราะเมื่อเราประมวลทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นเกมจนมาถึงตอนจบ ทุกอย่างก็เข้าที่ลงตัวพอดีว่าเหตุใดธอร์ถึงส่งลูกและคนอื่น ๆ มาล่าสองพ่อลูก เพราะตัวของโลกิจะเป็นกุญแจทำให้เกิดมหาสงคราม ‘Ragnarok’ นั่นเอง เมื่อเป็นการนั้นฉากการเฉลยชื่อของเอเทรียสจึงเป็นที่ประทับใจของแฟน ๆ เกม
ฉาก สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หมุนซ้าย ควงขวา กากบาท วงกลม จาก God of War 1-3
ปิดท้ายกับฉากสุดประทับใจที่แฟนเกมซีรีส์ ‘God of War’ ต่างค่อนข้างจะโอเคกับสิ่งนี้ กับฉากการกด ‘Quick Time Event’ สั้น ๆ ตามฉากที่มีสาว ๆ มารอพี่โล้นเราให้ไปเพิ่มพลังก่อนออกไปสู้รบในฉากต่อไป โดยเราจะได้เห็นภาพของสาว ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยมายั่วเครโทสให้ไปหา ก่อนจะมีการตัดฉาก (แต่มีเสียง) พร้อมการกดปุ่ม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หมุนซ้าย ควงขวา กากบาท วงกลม ที่แต่ละภาคก็จะมีการกดที่ต่างกันไปที่แฟนซีรีส์นี้จะทราบกันดี แต่ก็น่าเสียดาย (รึเปล่า) ที่ใน ‘God of War’ ภาคหลัง ๆ ได้ตัดพวกนี้ออกไป ที่ถึงแม้ฉากเหล่านี้ในภาคหลัง ๆ จะไม่มี แต่ฉากการกด ‘Quick Time Event’ กับสาว ๆ ในภาคเก่า ๆ ก็เป็นที่ประทับใจให้แฟน ๆ ‘God of War’ ไม่รู้ลืมตลอดไป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 8 ฉากสุดประทับใจที่แฟน ๆ เกมซีรีส์โล้นซ่าฆ่าทวยเทพ ‘God of War’ ชื่นชอบจดจำและประทับใจในครั้งแรกที่เห็นหวังว่าจะถูกใจกัน ซึ่งถ้าเราข้ามฉากไหนตอนใดที่คุณ ๆ ประทับใจก็เอามาบอกเล่ากันได้ เพราะฉากที่เราเอามานำเสนอนั้นก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉากจากซีรีส์ ‘God of War’ ที่มีเกือบ 10 ภาคที่แฟน ๆ ทั่วโลก (บางส่วน) ลงความเห็นว่าเป็นฉากที่น่าประทับใจ และเราก็หวังว่าใน ‘God of War Ragnarok’ ที่วางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายนจะมีฉากเหล่ายิ่งใหญ่สุดประทับใจแบบนี้ให้เราได้ชมกันอีก ใครที่สนใจก็ไปเตรียมตัวกันได้บนเครื่อง ‘PlayStation 4-5’ ส่วนชาว ‘PC’ ก็คงต้องรออีกยาว ๆ กว่าจะลง ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็รอติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว รับรองว่าคุณจะไม่พลาดข่าวสารวงการเกมแน่นอน เพราะที่แบไต๋มีครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ