[บทความ] ทำไม Nintendo Switch อาจจะอายุยืนเท่า Gameboy

เชื่อว่าสิ่งที่แฟนเกมรอกันจนเบื่อคือการมาของรุ่นใหม่ของ Nintendo Switch ที่ลือมาหลายปีว่าจะออกรุ่นอัปเกรดสเปก แต่แล้วก็ไม่มีการเปิดตัวเสียทีเรียกว่าแฟนปู่นินรอเก้อมาตลอด ซึ่งมองอีกมุมมันก็มีข้อดีเพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่ แต่มันก็ไม่ได้เห็นอะไรแปลกใหม่จาก Nintendo แล้วเมื่อไหร่มันจะออกรุ่นใหม่

เพราะไม่มีทางที่ปู่นินจะขาย Nintendo Switch ไปตลอดกาลแน่นอน วันนี้มาลองคิดวิเคราะห์จากการวางขายคอนโซลในอดีตของ Nintendo มารวมกับสถานการณ์ตลาดเกมคอนโซลในปัจจุบัน ทำให้เกิดอีกทฤษฎีที่อาจจะเป็นไปได้ว่า Switch จะมีอายุยืนยาวเท่ากับ Gameboy รุ่นแรก

เปิดตำนาน Gameboy คอนโซลอายุยืนที่สุดของปู่นิน

ก่อนจะวิเคราะห์ต้องกล่าวถึง Gameboy คอนโซลพกพาของ Nintendo ที่วางขายในปี 1989 ถือเป็นเครื่องเกมที่มีอายุยืนยาวที่สุดของปู่นิน เพราะหากนับเฉพาะรุ่นจอขาวดำ กว่าจะมีการอัปเกรดสเปก (เล็กน้อย) อย่าง Gameboy Color (GBC) ก็ต้องใช้เวลาถึง 9 ปี เพราะ GBC วางขายในปี 1998 ถือว่าลากขายมายาวนานมากเกินอายุคอนโซลทั่วไปที่มีอายุประมาณ 4-6 ปี

แต่หากจะนับรุ่นอัปเกรดสเปกครั้งใหญ่ จนเรียกได้ว่าเป็นเครื่องเกมยุคใหม่จริง ๆ อาจจะบอกได้ว่า Gameboy มีอายุมากถึง 12 ปี เพราะว่าการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่แบบจริงจังเกิดขึ้นในปี 2001 กับการมาของ Gameboy Advance ที่ใช้ชิปแบบ 32Bit แล้วทำไมคอนโซลที่ใช้ชื่อว่า Gameboy ถึงอายุยืนมายาวนานแบบไร้คู่แข่งแบบนี้

สาเหตุเพราะไม่ใช่ว่า Gameboy ไม่มีคู่แข่งแต่เพราะคู่แข่งสู้ไม่ได้เอง เพราะตั้งแต่ปีแรกที่วางขาย Atari ก็วางขาย Lynx ออกมาแข่งแล้วแถมด้วยสเปกที่แรงกว่าแถมด้วยหน้าจอสีแต่ก็ยังสู้ไม่ได้ แม้หลังจากนั้นอีก 1 ปี SEGA จะวางขาย Gamegear ก็ไม่สามารถโค่นปู่นินลงได้ ทำให้ช่วงแรกมันไร้คู่แข่งจนสามารถลากยาวขายมาได้อย่างยาวนาน แม้ว่าช่วงท้ายยุคจะโดนท้าทายด้วย Neo Geo Pocket และ Wonderswan ก็ไม่ทำให้ Gameboy สะเทือน

Nintendo Switch จะเหมือน Gameboy หรือไม่

วกกลับมาที่ Nintendo Switch มันมีเรื่องราวที่คล้าย ๆ กันเพราะในช่วงแรกที่วางขายคอนโซลพกพาลูกผสมไม่มีคู่แข่งโดยตรง เพราะลูกเล่นที่แปลกกว่ากับการพกพาไปนอกบ้านรวมทั้งต่อทีวีได้ ทำให้มันขายดีเหมือน Gameboy ตั้งแต่เปิดตัว เพราะความเห่อกับของแปลกใหม่ของแฟนเกมเรียกว่ามีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายเครื่องเกมอย่างมาก

และสิ่งที่เหมือนกับอีกอย่างคือการที่ไม่มีรุ่นอัปเกรดสเปกเลยออกมาเลย เพราะตั้งแต่เริ่มวางขาย Switch รุ่นแรกในปี 2017 ปู่นินออกรุ่นตัวเล็กลงอย่าง Switch Lite ซึ่งตรงกับการออก Gameboy Pocket ตามด้วย Switch OLED ที่คล้ายกับ Gameboy Color แม้จะไม่ได้ตรงกันแบบ 100% เพราะว่า OLED ไม่ได้อัปเกรด CPU เหมือนกับ Gameboy Color ที่เพิ่มความเร็ว CPU กับเพิ่ม Ram เล็กน้อย ส่วนนี้อาจจะคาดเดาได้ว่าปู่นินอาจจะใช้รูปแบบนี้อีกครั้ง

ปู่นินกลัวที่จะออกเครื่องเกมใหม่

อย่างไรก็ตามอีกเหตุผลหนึ่งที่เครื่องเกม Nintendo Switch อายุยืนยาวมากกว่าปรกติ นอกจากการไร้คู่แข่งโดยตรงแล้ว สาเหตุเพราะว่าปู่นินกลัวความล้มเหลวในการเปลี่ยนถ่ายยุค เพราะในอดีตเคยล้มเหลวอย่างหนักมาแล้วกับ WiiU ที่ไม่สามารถสานต่อความสำเร็จจาก Wii ได้เลย เพราะไม่สามารถสร้างลูกเล่นให้แปลกใหม่โดนใจแฟนเกมได้ ทำให้ปู่นินกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก

หรือการสานต่อจาก Nintendo DS (NDS) เปลี่ยนมาเป็น 3DS ที่ทำได้ดีในระดับหนึ่งแต่ยอดขายของ 3DS น้อยกว่า NDS มากกว่า 50% เพราะลูกเล่นหน้าจอ 3 มิติอาจจะไม่ได้โดนใจผู้เล่นและบางครั้งเป็นอุปสรรคกับการเล่นเกมด้วยเพราะเล่นนาน ๆ แล้วปวดตา เรียกว่าไอเดียแปลกใหม่บางครั้งก็ไม่สามารถใช้งานจริงและไม่สามารถใช้เป็นจุดขายหลักของคอนโซลได้

ทำให้หากไม่มีไอเดียที่แตกต่างและโดนใจจริง ๆ ก็อาจจะยังไม่เห็นคอนโซลทายาทต่อจาก Switch ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนหากคิดไม่ออกจริง ๆ แล้วออก Switch รุ่นสเปกแรงขึ้นก็อาจจะขายได้ดีในระดับหนึ่งแต่อาจจะไม่ปังเท่ากับ Switch รุ่นแรกแล้วเพราะมันไม่สดใหม่ ทำให้คาดว่าปู่นินต้องคิดให้หนักก่อนจะเปิดตัวเครื่องเกมรุ่นใหม่ ทำให้คาดว่าเป็นเหตุผลหลักเลยที่จนป่านนี้ยังไม่มีการเปิดตัวคอนโซลรุ่นใหม่จาก Nintendo

ตลาดเกมเปลี่ยนไปมีคู่แข่งแล้ว

และหากวิเคราะห์ตลาดเกมในตอนนี้มาคาดเดาความเป็นไปได้ในอนาคต ก็บอกได้เลยว่ามีโอกาสที่จะเห็นเครื่องใหม่ก่อนที่ Switch จะมีอายุเท่า Gameboy เพราะว่ายอดขาย Switch ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการมาของคู่แข่งแบบอ้อม ๆ อย่าง Steam Deck จาก Valve และเหล่าบรรดาเครื่องเกมพกพาที่เล่นเกมบน PC ที่หลายค่ายเข็นมา แม้อาจจะไม่มาชนกันโดยตรงแต่ก็เป็นส่วนกระตุ้นให้ปู่นินออกรุ่นใหม่เร็วกว่าเดิมก็เป็นไปได้

และหากมองตลาดเกมในอนาคตหากปู่นินไม่สามารถคิดไอเดียแปลกใหม่มาดึงดูดผู้เล่นได้จริง ๆ ก็อาจจะไม่มีการฝืนใส่อะไรแปลก ๆ แบบ WiiU ออกมาอีก Nintendo จึงอาจเลือกเส้นทางง่ายด้วยการอัปสเปก Switch ครั้งใหญ่แบบจัดเต็มเพื่อให้แสดงผลกราฟิกได้ดีขึ้น เพราะเชื่อว่ามีแฟนเกมหลายคนอยากเล่นเกม Zelda Tears of the Kingdom ในแบบกราฟิกที่ดูดีกว่านี้แน่นอน แม้อาจจะไม่ปังเท่ากับตอนเปิดตัว Switch แต่ยังดีกว่าไปเสี่ยงกับลูกเล่นใหม่ที่ไม่รู้ว่ามันจะเวิร์กหรือไม่ ส่วนจะออกมาแบบไหนก็ต้องรอกันต่อไป