พรูเด็นเชียล ปี68 ลุยเต็มสูบ เป้าโตต่อรุกช่องทางตัวแทน

#พรูเด็นเชียล#ทันหุ้น พรูเด็นเชียล เขียนแผนงานปี 2568 สู่การเติบโตด้วยเป้าหมายท็อป 3 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต เร่งเดินหน้าโตช่องทางตัวแทน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยังเน้นคุ้มครอง และยูนิตลิงค์ หลังอัตรตาดอกเบี้ยขาลง ด้านผู้บริหารมอง ประกันสุขภาพ Copayment ช่วยคุมเบี้ยไม่ได้ขึ้นสูงและเร็วเหมือน เงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลที่อยู่ระดับ 8-10%

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า พรูเด็นเชียล ประเทศไทยอยู่ระหว่างการทำแผนงานปี 2568 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายผลักดันบริษัทขึ้นเป็นติดท็อป 3 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ซึ่งอาจไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แต่เป็นความตั้งใจของพรูเด็นเชียล ที่ไม่ว่าจะไปตั้งฐานธุรกิจที่ภูมิภาคไหน ก็มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ท็อป 3

*เป้าท็อป5สู่ท็อป 3

“ปี 2567 เป็นปีที่เราเติบโตทางธุรกิจได้เป็นที่น่าพอใจ ตัวเลขที่เป็นทางการ 9 เดือน ปี2567 เราสามารถเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมประกันชีวิต โดย เบี้ยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE)เราโตถึง 27% ในขณะที่อุตสาหกรรมโตราว 5%เท่านั้น ถือว่าเราเติบโตกว่าอุตสาหกรรทมถึง 5 เท่า ส่งผลให้เราขึ้นเป็นท็อป 5 ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว เราเติบโตได้ทั้งช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ตัวแทน และช่องทางออนไลน์”

ทั้งนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตลาดของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยมกราคม - 30 กันยายน 2567  มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) อยู่ที่ 7,688 ล้านบาท โต 27% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา การเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ไตรมาส 3/2567 พรูเด็นเชียล ประเทศไทย อยู่ใน 5อันดับแรกของธุรกิจประกันชีวิต

นายบัณฑิต กล่าวว่าในปี 2568 บริษัทมีแผนเพิ่มความแข็งแกร่งช่องทางตัวแทนหลังจากได้นายอนุชา ภิงคารวัฒน์ เข้ามารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารตัวแทนของบริษัท เพื่อต่อยอดการเติบโตในช่องทางอื่นๆ ที่นอกจากแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งถือเป็นช่องทางหลักของบริษัทในปัจจุบัน โดย พรูเด็นเชียล มีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตในช่องทางตัวแทนให้มากขึ้น ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเตรียมแผนงาน เพื่อที่เข้าปี 2568 จะสามารถเดินหน้าสร้างการเติบโตได้ทันที

*สร้างการเติบโตผ่านตัวแทน

“ปี 2568 จะเป็นปีที่เรามีการปรับโฉมเรื่องสายงานตัวแทนพอสมควร ต้องบอกว่า กลุ่มพรูเด็นเชียลนั้นจริงๆ มีความแข็งแกร่ง และโนว์ฮาวในการเทรนด และดูแลตัวแทนเยอะมาก และความตั้งใจของเราที่จะขึ้นท็อป 3 ไปจนถึงเบอร์ 1 สิ่งที่เราเน้นเติบโตวันนี้ ไม่ใช่แค่พื้นที่แบงก์แอสชัวรันส์เท่านั้น หากยังเป็นพื้นที่ที่ตัวแทนของเราเข้าไปสร้างการเติบโตด้วย”

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต นายบัณฑิต กล่าวว่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน ในปี 2568 เป็นช่วงดอกเบี้ยขาลง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต จะยังคงเน้นในเรื่องของความคุ้มครอง มากกว่า ประกันสะสมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกันพรูเด็นเชียลก็จะยังคงเน้นในเรื่องของแบบประกันที่เป็นความคุ้มครอง เช่น ประกันโรคร้ายแรง เช่นมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือ เป็นต้น และสินค้าประกันที่ลิงค์ไปกับการลงทุน เช่น ประกันยูนิตลิงค์ ก็เป้นอีกแผนที่บริษัทจะยังคงผลักดันนำเสนอต่อในปี 2568

นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ต่อกรณีที่ประกันสุขภาพจะเปลี่ยนมาใช้แผน ค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) นั้น จุดประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เคลมเกินจำเป็น ในกลุ่มโรคป่วยเล็กน้อยทั่วไป (Simple Diseases)เช่น ไข้หวัดใหญ่(Influenza) ท้องเสียเฉียบพลัน (Acute Diarrhea) เวียนศีรษะ (Vertigo) เป็นต้น ซึ่งการจะเข้าเกณฑ์ ก็ไม่ได้ Copayment เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องมีการเคลม ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป และมีอัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยแต่ละรายในรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยตั้งแต่ 200% เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่น่ากังวลสำหรับผู้ป่วยที่เคลมปกติ

“อย่างการผ่าตัดที่มีความจำเป็น หรือป่วยเป็นโรคร้ายแรง ในทางธุรกิจประกัน ถือเป็นกลุ่มคนที่เราตั้งใจเข้ามาดูแล กลุ่มนี้ไม่ได้อย่างป่วย หรืออยากเคลมอยู่แล้ว เงื่อนไขตรงนี้ก็จะไม่โดน Copayment ดังนั้น เราไม่อยากให้ประชาชนมีการวิตกมากเกินไป เพราะภาคธุรกิจมีเป้าหมายแค่ต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มคนที่เคลมเกินจำเป็น จากการเจ็บป่วยเล็กน้อย แต่ขอนอนในโรงพยาบาลหลายๆ วันเกินจำเป็น หวังค่าชดเชยโดยไม่จำเป็น การมี Copaymentก็จะทำให้คนกลุ่มนี้คิดมากขึ้น”

มาตรการที่ออกมา ไม่ใช่เรื่องใหม่ แผน Copayment มีระบุอยู่ใน New Health Standard ที่เริ่มใช่ในปี 2564 โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แต่ที่เริ่มพูดกันมากในช่วงนี้ นายบัณฑิต มองว่า เกิดจากอัตราค่าสินไหมที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าภาพรวมเงินเฟ้อของประเทศจะอยู่ระดับประมาณ 2%แต่เงินเฟ้อของอัตราการรักษาพยาบาลขึ้นไป8-10%ดังนั้น หากคุมเงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลไม่อยู่ อัตราเบี้ยประกันสุขภาพจะถูกปรับเพิ่มขึ้นจนทำให้คนบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงได้

*กดเบี้ยไม่ให้พุ่ง

เพื่อจำกัดอัตราเบี้ยประกันไม่ให้เพิ่มขึ้นเร็ว และสูง การนำ Copayment มาใช้จะเป็นอีกทางที่ช่วยได้ และยังทำให้บุคคลทั่วๆไป สามารถเข้าถึงความคุ้มครองจากประกันสุขภาพได้ ซึ่งย้ำว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะโดน Copayment หากไม่เข้าเกณฑ์ที่กำหนด

ขณะดียวกัน ในส่วนของ พรูเด็นเชียล ก็ไม่ได้เน้นแค่เรื่องของความคุ้มครอง และการจ่ายเคลมให้กับลูกค้าเท่านั้น หากยังมุ่งเน้นในการป้องกัน เพื่อให้สุขภาพของลูกค้าแข็งแรง ผ่านการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน พรูเด็นเชียลซีนิคมาราธอน จันทบุรี 2567 ด้วยเชื่อว่า การมีสุขภาพที่ดี คือ ความมั่งคั่งที่แท้จริง

นายบัณฑิต กล่าวทิ้งท้ายว่า พรูเด็นเชียล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “Scenic Marathon Series” มาตลอดทั้งปี2567 ในหลากหลายสนามการแข่งขัน ทั้งประจวบคีรีขันธ์, จันทบุรี, ระยอง และ กระบี่ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “Step Up Start Now สุขภาพดีกว่าเดิม แค่เริ่มไปด้วยกัน ที่พรูเด็นเชียล มุ่งส่งเสริมให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ พร้อมสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับคนไทยในทุกช่วงวัย ทั้งด้านสุขภาพและการใช้ชีวิต ตามเจตนารมณ์ “ชีวิตมีกัน ทุกวันดีกว่า” เพราะเชื่อว่าการมีกันและกันจะช่วยเติมเต็มทุกวันให้ดีกว่าเดิม

“ผมเชื่อว่าความมั่งคั่งที่แท้จริง คือ การมีสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม หรือ Health is Wealth ดังนั้น เราจึงอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนให้หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือเดิน เป็นการเริ่มต้นจากตัวเองที่ง่ายที่สุด เพียงเรามีรองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ เราก็สามารถขยับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีได้วันละนิด” นายบัณฑิต กล่าวทิ้งท้าย