รีเซต

‘หรือนี่จะเป็นวันสิ้นโลก’ ไฟป่าถล่มลอสแอนเจลิส 2025 รุนแรงกว่าที่เคยเจอ

‘หรือนี่จะเป็นวันสิ้นโลก’ ไฟป่าถล่มลอสแอนเจลิส 2025 รุนแรงกว่าที่เคยเจอ
TNN ช่อง16
9 มกราคม 2568 ( 22:37 )
16

ภาพสะท้อนจากฉากหนัง เริ่มคืบคลานเข้ามาสู่ในชีวิตจริง “วันสิ้นโลก” คำนี้ไม่เกินจริง เมื่อมันออกมาจากปากของผู้อยู่อาศัยในแถบนั้น ความรุนแรงของภัยธรรมชาติ กำลังส่งเสียงสัญญาณความรุนแรงขึ้นทวีคูณ จนสัมผัสได้ว่า “วันล่มสลายของโลก อาจจะมาเร็วกว่าที่มนุษย์คาดไว้” 


---ไฟป่าถล่มลอสแอนเจลิส---


การเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ในนครลอสแอนเจลิส นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ปกติ เพราะว่า เมืองนี้ มักจะเผชิญกับภัยธรรมชาติรูปแบบต่าง ๆ อยู่เป็นประจำทุกปี ไม่ว่าจะ น้ำท่วม, แผ่นดินไหว และไฟป่า 


แต่วันอังคาร (7 มกราคม) ที่ผ่านมา วันแห่งการทำลายล้างจากภัยธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ ได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อเกิดไฟป่าบริเวณเขตแปซิฟิก พาลิเซดส์ เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และได้เผาวอดทำลายล้างพื้นที่แถวนั้นไปมากกว่า 7,500 ไร่


ด้วยลมที่กระโชกรุนแรง ความเร็วลมเกือบ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งพัดผ่านทั่วภูมิภาค นั่นจึงทำให้ไฟป่าแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนท้องฟ้าสีสดใส ให้ขมุกขมัว ขณะที่ นักดับเพลิงก็ระดมกำลังอย่างสุดความสามารถ เพื่อควบคุมเพลิง แต่ก็ยากเกินกว่าจะควบคุม ก่อนที่ภายหลังจะเกิดไฟป่าขึ้นมาอีก 3 จุด ได้แก่ แพซาดินา, ซิลมา และฮอลลีวูด ฮิลล์ 


ไฟไหม้ครั้งนี้เป็นเรื่องเกินรับมือ เพราะปริมาณน้ำของเมืองไม่เพียงพอที่จะใช้ควบคุมเพลิง เนื่องจากระบบน้ำในลอสแอนเจลิสได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้อุปโภคบริโภคเท่านั้น 


ภายในระยะเวลากว่า 48 ชั่วโมง เพลิงไหม้ได้เผาผลาญพื้นที่กว่า 68,000 ไร่ อาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 1,000 หลัง ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ผู้คนมากกว่า 130,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัยและอพยพจากบ้านเรือน รวมถึงมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย 


บ้านเรือน สำนักงาน ห้างร้านต่าง ๆ ในลอสแอนเจลิสเกือบ 1 ล้านหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียนทั้งหมดต้องหยุดเรียน


---คล้ายดั่ง “วันสิ้นโลก”---


“มันดูเหมือนวันสิ้นโลก” เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของชาวนครลอสแอนเจลิสรายหนึ่ง ผู้ซึ่งหนีตายจากไฟป่า ให้สัมภาษณ์กับ BBC โดยเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คล้ายกับในฉากหนังวันสิ้นโลก 


“ไฟลุกไหม้จนควบคุมไม่ได้อยู่รอบตัวเรา ควันปกคลุมทั่วท้องฟ้า และหน่วยฉุกเฉินก็ทำงานจนเกินขีดความสามารถ เพราะน้ำกำลังหมด และพยายามตอบรับต่อสายร้องเรียน 911 มากกว่าพันสาย” เขา กล่าว


ขณะที่ สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คล้ายกับวันสิ้นโลก ยิ่งตอกย้ำถึงสถานการณ์หายนะที่รุนแรงหนักขึ้น 


ด้านหน่วยดับเพลิง เผยว่า พวกเขาเข้าควบคุมเพลิงจนหัวจ่ายน้ำหมด และน้ำประปาได้หมดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งไฟไหม้ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ 


---2025 เพลิงไหม้รุนแรงทวีคูณ---


เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลอสแอนเจลิสต้องเผชิญ เพราะเมืองแห่งนี้ จะมีรูปแบบการเกิดภัยพิบัติสลับกันไปมาเป็นประจำทุกปี แต่สำหรับปี 2025 ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น จนสร้างความวุ่นวายระดับใหม่ให้กับชาวเมือง 


อากาศปีนี้ ทำให้พืชพรรณต่าง ๆ ในเมืองมีความแห้งแล้งมากขึ้น เนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้น และแห้ง กอปรกับกิจกรรมของมนุษย์ ยิ่งทำให้สภาพแวดล้อม เหมาะกับการเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้ไฟได้เจริญเติบโต 


ประชาชนที่อาศัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตกอยู่ในความตื่นตระหนก ทิ้งบ้าน และนำสิ่งของติดตัวออกมาเพียงเล็กน้อย หลายคนต้องทิ้งรถกลางถนน เพื่อวิ่งหนีตายจากเพลิงไหม้ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว 


จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 1,700 ล้านบาท เนื่องจากย่านชุมชนแถวนี้ เป็นย่านคนรวย และบุคคลมีชื่อเสียงแห่งวงการฮอลลีวูด บ้านของคนดังบางคนถูกเผาวอดไปกับกองเพลิง 


รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะมอบเงินช่วยเหลือเพื่อจัดการอัคคีภัยที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับระดมกำลังพลเจ้าหน้าที่นอกพื้นที่ เพื่อเข้ามาช่วยควบคุมเพลิง


ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามหาทางแก้ไขในระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไฟป่า เช่น การสร้างบ้านจากวัสดุที่ทนทานต่อไฟได้, ควบคุมการเผาไหม้, ปรับปรุงระบบพยากรณ์อากาศให้ดีขึ้น, ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น 


อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ไฟป่าทางตอนใต้ในแคลิฟอร์เนียจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยไม่มีฝนตกหนัก หรือ การดำเนินการในระยะยาว


---โลกยิ่งร้อน ไฟป่ายิ่งแรง---


การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กำลังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียมากขึ้น โดยเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนสุดขั้ว เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมา สภาพอากาศลอสแอนเจลิสมักสลับกันไปมา  ระหว่างความแห้งแล้ง และความชื้น 


เมื่อในพื้นที่เกิดฝนตกหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วม สิ่งนั้น ส่งผลให้หญ้าและพุ่มไม้ในพื้นที่ทางตอนใต้มีความอุดมสมบูรณ์ และเมื่ออากาศเข้าสู่สภาวะความแห้งแล้ง พืชพรรณเหล่านั้น ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้กับไฟป่าได้ 


นอกจากนี้ การที่ลมกระโชกรุนแรงมากขึ้น จนพัดให้เพลิงโหมกระหน่ำ ส่วนหนึ่งก็เป็นปัญหามาจากโลกร้อน เนื่องจากอุณหภูมิของมหาสมุทรสูงขึ้น บวกกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำที่พัดผ่าน ส่งผลให้รูปแบบของลมเกิดการเปลี่ยนแปลง และทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว


แต่ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งหมดที่กล่าวถึงนั้น ดูเหมือนว่า จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่ถ้าเจาะลึกลงไปให้ดีจะพบว่า ทุกภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ล้วนมีมนุษย์เป็นสาเหตุอยู่เสมอ จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น 

นอกจากนี้ ไฟป่าส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น มักมากจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตั้งแคมป์ปิ้ง หรือ ประกายไฟจากเครื่องจักร เป็นต้น 


อย่างไรก็ตาม รูปแบบของสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้เหล่านี้ ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ส่งผลให้ไฟป่าเกิดความรุนแรงและถี่ขึ้น โดยคาดว่า โลกร้อนจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต 


แปล-เรียบเรียง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 

https://www.bbc.com/news/articles/c86w61839pyo

https://www.vox.com/climate/394005/palisades-eaton-wildfire-los-angeles-santa-ana-winds-california-explainer

https://www.thehansindia.com/news/international/california-wildfire-crisis-a-wildfire-apocalypse-in-los-angeles-935900

https://edition.cnn.com/weather/live-news/los-angeles-pacific-palisades-eaton-wildfires-01-08-25/index.html

https://www.hindustantimes.com/world-news/california-wildfire-burning-los-angeles-looks-apocalyptic-in-scary-visuals-101736403112374.html

ข่าวที่เกี่ยวข้อง