นอภ.วังสะพุง แจ้งความเอาผิด ชาวบ้าน 6ราย หนีกักตัว ออกมาเร่ขายลอตเตอรี่
ข่าววันนี้ 17 ส.ค. 64 นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุงได้มอบหมายให้ นายกฤตบุญ อินทสิทธิ์ ปลัดอำเภอวังสะพุง เข้าแจ้งความที่สภ.วังสะพุง หลังชาวบ้านน้ำจันทร์ หมู่4 ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย จำนวน 4 ราย และชาวบ้านโนนสว่าง ต.โคกขมิ้น จำนวน 2 ราย รวมเป็น 6 ราย โดยได้ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโควิด ตามประกาศจังหวัดเลย ลงวันที่ 6 ส.ค. 64 โดยมีพฤติกรรม ได้หลบหนีการกักตัวไม่ครบ 14 วันไปขายลอตเตอรี่ หลังเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
นายภูริวัจน์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จังหวัดเลย ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอวังสะพุง พบว่ามีผู้ติดเชื้อมากกว่าอำเภออื่น ๆ ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 535 ราย และมีผู้ป่วยกำลังรักษาถึง 274 ราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 6 คน และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ก็มาจากผู้ที่เดินกลับจากการขายลอตเตอรี่
กลับมาได้นำเชื้อมาแพร่ระบาดกับครอบครัว และญาติผู้ใกล้ชิด ซึ่งนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้กำชับให้เข้มงวดผู้ที่ไปขายลอตเตอรี่กลับมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม ต้องถูกกักตัว 14 วัน ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย
นายภูริวัจน์ กล่าวต่อว่า ทางอำเภอวังสะพุง แจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านและมีอาชีพของลอตเตอรี่จำนวน 6 ราย ใน 4 ราย เป็นชาวบ้านน้ำจันทร์ หมู่4 ต.หนองงิ้ว เป็นชาย 2 หญิง 2 โดยมีพฤติกรรมทั้งหมดได้เดินทางมาจาก พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แต่กลับได้ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ไม่กักตัวครบ ตามกำหนด 14 วัน
โดยมีกำหนดกักตัวตั้งแต่วันที่ 2-16 ส.ค. 64 แต่ได้หลบหนีการกักตัวเมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 เพื่อหนีออกไปขายลอตเตอรี่ในต่างจังหวัด ส่วนอีก 2 ราย เป็นชาวบ้านหมู่ที่8 บ้านโนนสว่าง ต.โคกขมิ้น 2 สามีภรรยา ก็ได้หลบหนีการกักตัวตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุม โรคติดต่ออำเภอวังสะพุงที่685/2564 ลงวันที่ 28 ก.ค.64 และคำสั่งฯที่686/2564 ลงวันที่28 ก.ค.64 ตามลำดับ โดยเดินทางออกจาก สถานที่กักตัว ไปขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.2564 และคาดว่าทั้ง 6 คน กลับจากการขายลอตเตอรี่จะถูกดำเนินคดีทันที
ทั้งหมดได้ถูกแจ้งความดำเนินดคี ในข้อหาฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศจังหวัดเลยลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 โดยมีอัตราโทษทั้งจำทั้งปรับ และเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ