คนเจอ “น้องจีน่า” คนแรก เผยหมอดูแนะให้ไปหาที่กระท่อม ก่อนเจอจริง!

คนเจอ “น้องจีน่า” คนแรก เผยหมอดูแนะให้ไปหาที่กระท่อม ก่อนเจอจริง! พ่อแม่-ญาติโล่งน้องปลอดภัย แต่ไม่เชื่อ “อาผะ” ลงมือทำคนเดียว

กรณีการหายตัวไปของ “น้องจีน่า” อายุ 1 ขวบ 11 เดือนที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย. ในพื้นที่ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยตร.ปูพรมหาแต่ไม่เจอ ก่อนต่อมา “นายเสี่ยว” หรือ “อาผะ” ให้การสารภาพวกไปวนมา ระบุว่านำตัวน้องจีน่าไปปล่อยหน้าถ้ำบนดอย สังเวยผีถ้ำ ก่อนกลับคำให้การ บอกว่านำตัวน้องไปปล่อยที่บ่อน้ำ สุดท้ายมีคนไปพบน้องจีน่าที่กระท่อมในสภาพปลอดภัย สร้างความรู้สึกโล่งใจและดีใจให้กับทุกคน

รายการโหนกระแสวันที่  8 ก.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33  สัมภาษณ์  “ป้อม –  ดาว” อาและป้าน้องจีน่า มาพร้อมกับ “รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” แพทยผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว.

โดยทางรายการได้มีการต่อสายไปยัง “จะบูสือ จะรอ” ผู้ที่เจอน้องจีน่าเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ขณะไปพบเป็นการเจอพร้อมกัน 3 คน โดยน้องจีน่า ปกติดี กำลังเล่นขวดน้ำอยู่คนเดียว ในจุดนั้นไม่มีอาหารการกินวางเอาไว้

จะบูสือ ระบุว่า เหตุที่เดินไปเจอเพราะมีหมอดูบอกให้ลองไปดูฝั่งพื้นที่ตรงนั้น จุดที่เลยแทงก์น้ำไป คาดว่าจุดนี้น่าจะมีคนมาดูก่อนแต่ไม่เจอในตอนแรก และเมื่อเห็นแล้วก็จำไปในทันทีเพราะตนเป็นน้าของจีน่า

จะบูสือ เล่าต่อว่า จุดที่เจอนั้นอยู่ห่างจากหมู่บ้านราว 2-3 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่ “นายผะ” ชายที่อ้างว่าอุ้มน้องไปบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาอ้างราว 1 กิโลเมตร โดยจุดดังกล่าวเป็นทางเดียวกันที่จะไปถ้ำแต่อยู่คนละเขา

จะบูสือระบุว่า ขณะที่เจอนั้น “ไม่กล้าเข้าไปในกระท่อม ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนครับ เจอน้องหยิบโทรศัพท์มาโทร แต่สัญญาณไม่มี เลยวิ่งไปบอกเจ้าหน้าที่ครับ” และว่า สาเหตุที่ไม่กล้าเข้าไปในกระท่อมเพราะ “เขาจะมาสืบสวน ไม่กล้าแตะตัวน้องครับ”

ด้าน วัชรา ตาคำ ผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานเข้ามายังรายการระบุว่า ตอนนี้อยู่ในหมู่บ้าน ใกล้บ้านพักน้องจีน่า ตอนนี้มาที่นี่หลังได้นำตัวน้องไปส่งรพ. ก่อนเจอน้องจีน่าเราพยายามติดตามภารกิจว่าไปเจอตัวน้องจีน่าตรงจุดไหน เราได้ขึ้นไปปรากฏว่าได้เจอตัวน้องจริงๆ จริงๆ น้องนั่งลักษณะเหมือนนอนครึ่งตัว กับตัวกระท่อม เจ้าหน้าที่พยายามไปคุยไปปลอบน้อง ตอนนั้นน้องมีสติดี สามารถพูดคุยได้ แต่พูดอะไรได้ไม่มากนัก น้องใส่เสื้อผ้าชุดเดิมวันที่น้องหายตัวไป เจ้าหน้าที่นำผ้าขนหนูเล็กๆ ไปคลุมน้องเพื่อนำตัวลงจากดอย น้องเองเหมือนหิว เพราะน้องหายไปตั้งแต่วันที่ 5 เจ้าหน้าที่นำนมให้น้องกินหนึ่งกล่อง ก่อนใช้ผ้าขนหนูคลุมตัวน้องลงจากดอยเพื่อขึ้นรถรพ. ซึ่งเส้นทางค่อนข้างลำบาก เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ปรากฏว่าหลังมาถึงตีนดอย มีจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่ผนึกกำลังช่วยกัน เจ้าหน้าที่พอเห็นตัวน้อง ส่งเสียงปรบมือให้กำลังใจ น้องจีน่าอยู่ในอาการที่ค่อนข้างปลอดภัย มีสติ ปลอดภัยดี เป็นไปตามที่คุณแม่คาดว่าน้องอาจจะถูกลักพาตัวไปหรือไม่อย่างไร และน้องยังอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ หมู่บ้าน

วัชราระบุว่า ได้คุยกับแม่น้อง แม่บอกเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะเดินขึ้นไปไกลได้ขนาดนี้ เพราะน้องยังเดินเต๊าะแตะ ถ้าเดินขึ้นไปบนสันเขาเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นคนใดคนหนึ่ง หรือผู้ต้องสงสัยจะพาขึ้นไปหรือเปล่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่ม เพราะเมื่อคืนเค้นถามทั้งคืนเขาก็ให้การวกไปวนมา เจ้าหน้าที่พยายามนำตัวนายเสี่ยวขึ้นไปชี้จุดถ้ำที่เขาให้การ ซึ่งมีสองถ้ำ ปรากฏว่าไม่เจอหลักฐานอะไรใดๆ ทั้งสิ้น นำตัวมาบ่อน้ำท้ายหมู่บ้านก็ไม่เจอ จนมีคนแจ้งว่าเจอตัวน้องแล้วในกระท่อมใกล้บนเขา เมื่อขึ้นไปสำรวจก็เจอตัวน้องจริงๆ สรุปน้องจีน่าปลอดภัยดี ทุกคนดีอกดีใจ โดยเฉพาะครอบครัวน้องจีน่า

ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ ระบุว่า ดูจากสภาพของน้องจีน่าที่ยังปกติ ยืนได้ ดูดนมได้ หากนับจำนวนวันที่หายไป 4 วัน ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำดื่มนมหรือทานอะไรเลย เด็กน่าจะมีสภาพอ่อนเพลียมาก ไม่สามารถยืนได้ คาดว่าน่าจะมีคนช่วยเหลือ

“มุมมองเห็นเด็กเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงปกติ แต่เราไม่เห็นสภาพที่แท้จริง แต่การคาดการณ์ การไม่มีคนดูแลเด็ก 4 วัน สภาพเด็กน่าจะอ่อนเพลียมาก น่าจะนอนไม่น่าเคลื่อนไหวได้ในลักษณะแบบนี้ แต่แน่นอนเดี๋ยวต้องมีการประเมินเพิ่มเติม ว่าเด็กได้รับสารอาหารหรือไม่ แล้วใครเป็นผู้ให้ ที่สำคัญถ้ามีการไปตรวจสถานที่แห่งนี้แล้วไม่เจอ แสดงว่ามีการเคลื่อนย้ายมา เด็กหนึ่งขวบสิบเอ็ดเดือนไม่น่าหลบหลีกเองได้ เพราะคนไปหาเยอะมาก” นพ.วีระศักดิ์ ระบุ

ด้านอาและป้าน้องจีน่า เปิดเผยด้วยว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวไม่ใช่เมียนมา เป็นคนอาข่า แต่เขาไม่มีสัญชาติเลยเรียกว่าเมียนมา เขาชื่ออาผะ ไม่มั่นใจว่าอาเสี่ยวอาเสี้ยวเป็นชื่อเรียกในหมู่บ้านหรือเปล่า แต่เขาชื่ออาผะค่ะ เพิ่งมาอยู่ 2-3 ปี เพิ่งแต่งงานกับหญิงชาวละหู่หรือมูเซอ คนในหมู่บ้านนั้น พื้นเพไม่ใช่คนในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า ไม่น่าจะทำคนเดียวได้ และไม่เชื่อเรื่องผีดลบันดาลเพราะเป็นไปไม่ได้ คนทั้งหมู่บ้านนับถือศาสนาคริสต์

“ถ้าทำคนเดียวเป็นไปไม่ได้ หลังจากหายครึ่งชม. คนเดียวจะมีพาวเวอร์ทำให้เด็กหายไปนานขนาดนี้ ไม่มีวี่แววเลย สองสามวันที่ผ่านมาไม่เจอวี่แวว จริงๆ พวกหนูนับถือศาสนาคริสต์ มีความเชื่อในพระเจ้า แล้วที่เขาอ้างว่าผีดลบันดาล เป็นไปไม่ได้” และว่า

“เพราะทั้งหมู่บ้าน ทุกคนนับถือศาสนาคริสต์ เป็นคริสเตียน คริสเตียนไม่มีทางเชื่อว่าพระเจ้าสั่งให้ไปทำ เป็นข้ออ้างเขามากกว่า มุมมองของญาติอาจเบี่ยงเบนประเด็นไปให้โทษน้อยลงก็ได้ค่ะ เขาอ้างว่าผีสั่งให้เขาทำโดยไม่รู้ตัว อะไรแบบนี้ค่ะ” ป้อมระบุ