รีเซต

ตร.จับหนุ่มบุกขโมยโทรศัพท์พระวัดชมพูเวกถึงกุฏิ อ้างน้ำเงินไปซื้อข้าวกิน

ตร.จับหนุ่มบุกขโมยโทรศัพท์พระวัดชมพูเวกถึงกุฏิ อ้างน้ำเงินไปซื้อข้าวกิน
มติชน
4 ตุลาคม 2564 ( 15:09 )
2

เมื่อเวลา 12.00 น.วัดที่ 4 ตุลาคม พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายพีรวรรธน์ โสภาวัง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ซอย นนทบุรี 32 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พร้อมด้วยของกลางปืนปากกา 1 กระบอก จับกุมตัวได้หน้าร้านสะดวกซื้อ ริมถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี

 

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 64 เวลา 19.30 น.ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี เข้ามาก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือในกุฎิของพระวิทวัส โสภณปญโณ พระลูกวัด วัดชมพูเวก ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจาปิดในวัด ทราบว่าคนร้ายคือนาย พีรวรรธน์ เคยขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง หน้าศูนย์การค้าสลากไทย และยังทราบว่านายพีรวรรธน์ ได้นำปืนปากกา ตระเวนขายให้กับวัยรุ่นแต่ไม่มีใครรับซื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนติดต่อขอซื้อปืนปากการาคา 1,500 บาท ก่อนจะนัดส่งกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ริมถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 11.30 น.นายพีรวรรธน์ ได้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟรีโน่ สีแดงขาว ทะเบียน วจม 560 กรุงเทพมหานคร เข้ามาตำรวจสืบสวนที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางปืนปากกา 1 กระบอก สอบสวนให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักโทรศัพท์พระวัดชมพูเวก ตำรวจจึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและขอขมาพระเจ้าของโทรศัพท์

 

 

นายพีรวรรธน์ ให้การรับสารภาพ อ้างว่า ตกงานไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ที่ก่อเหตุลงไปเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากเมื่อวานนี้ตนมีปัญหาเรื่องเงิน จึงได้เดินทางมาที่วัดเพื่อปรึกษาขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัด และจะมาขอข้าววัดกิน กับขอเงินไว้ใช้ติดตัว โดยได้นำปืนปากกาของตนที่ซื้อต่อจากเพื่อนมานำมาฝากไว้กับหลวงพ่อ แต่กลับถูกหลวงพ่อปฎิเสธและตำหนิอย่างรุนแรง ตนจึงเดินไปหาหลวงพี่ที่อยู่อีกกุฏิหนึ่งแทน เมื่อมาถึงพบว่าที่กุฎิไม่มีใครอยู่ เห็นโทรศัพท์มือถือเสียบสายชาร์ตวางไว้จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือก่อนจะหลบหนีไป นำไปขายให้กับร้านขายได้เงินมา 400 บาท นำไปซื้อข้าวกิน

 

 

 

พระวิทวัส กล่าวว่า วันเกิดเหตุอาตมาอยู่ที่อาคารฌาปานกิจที่อยู่ในวัด ได้ชาร์ตโทรศัพท์มือถือไว้ในกุฎิ หลังเสร็จธุระกลับมาที่กุฎิพบว่าโทรศัพท์มือถือได้หายไปแล้ว มีร่องรอยถูกกระชากออกจากสายไฟ จึงให้พระลูกวัดช่วยโทรศัพท์เข้าเครื่องก็โทรไม่ติด จึงมั่นใจว่าต้องมีคนร้ายเข้ามาขโมยโทรศัพท์ไปอย่างแน่นอน ก่อนเข้าแจ้งความตำรวจ

 

 

 

 

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในสาธารณะสถานหรือสถานที่สักการะบูชา โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง