รีเซต

เส้นจราจรเรืองแสงในออสเตรเลีย นวัตกรรมลดอุบัติเหตุยามค่ำคืน

เส้นจราจรเรืองแสงในออสเตรเลีย นวัตกรรมลดอุบัติเหตุยามค่ำคืน
TNN ช่อง16
11 ธันวาคม 2566 ( 09:38 )
199
เส้นจราจรเรืองแสงในออสเตรเลีย นวัตกรรมลดอุบัติเหตุยามค่ำคืน

พื้นที่ห่างไกลในชนบทแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ทดลองทำเส้นจราจรแบบเรืองแสง หวังช่วยเป็นเส้นนำสายตาให้ผู้ขับขี่ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนยามค่ำคืนได้มากขึ้น


ภาพจาก reuters

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนนในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย กำลังทดลองใช้เส้นจราจรเรืองแสงในที่มืด ซึ่งระบุว่าอาจช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนในชนบท


เส้นจราจรเรืองแสงเหล่านี้พัฒนาโดยบริษัท สมาร์ทเตอร์ไลท์ (Smarterlite) โดยใช้สีเรืองแสงพิเศษ ที่ดูดซับแสงในช่วงกลางวันผ่านกระบวนการ โฟโตลูมิเนสเซนซ์ (photoluminescence) หรือกระบวนการดูดซับแสงของสสาร ซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวออกมาในเวลากลางคืน โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้เส้นจราจรเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่มืดสนิท หรือพื้นที่ที่มีหมอกหรือกลุ่มควันปกคลุม จึงช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้กับผู้ขับขี่ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือนำไปใช้เป็นเส้นบอกทางหนีภัยฉุกเฉินกรณีเกิดไฟป่าได้ด้วย


โดยการทดลองใช้เส้นจราจรเรืองแสงในที่มืดได้เริ่มขึ้นในพื้นที่เขตชนบทของรัฐวิกตอเรีย บนถนนความยาว 17 กิโลเมตร ในพื้นที่ 7 แห่ง ซึ่งไม่มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าใช้  โดยในช่วง 6 เดือนแรกของการทดลอง พบว่าเส้นจราจรเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้จริง และช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเวลากลางคืนลงถึงร้อยละ 20 จากเดิมที่มีสถิติระบุว่าเกือบร้อยละ 40 ของอุบัติเหตุบนท้องถนนในรัฐวิกตอเรียเกิดขึ้นในเวลากลางคืน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยรายต่อปี


ภาพจาก reuters

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนนเชื่อว่าเส้นจราจรเรืองแสงในที่มืด จะสามารถนำไปใช้ช่วยลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีพื้นที่ชนบทที่กว้างใหญ่ และมีจุดพื้นที่ที่มืดสนิทในเวลากลางคืน นอกจากนี้ นวัตกรรมเส้นจราจรเรืองแสงในที่มืด ยังช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกด้วย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ไฟส่องสว่างเพิ่มเติม สิ่งนี้จะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลภาวะทางแสงในยามค่ำคืนได้อีกด้วย


ข้อมูลจาก reutersconnect,  news.comnews.yahoonectec

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง