ชาวไร่ยาสูบ ขอบคุณนายกฯ เลื่อนภาษี ให้อีกปี หวังรัฐฯแก้ปัญหายั่งยืน
ชาวไร่ยาสูบ ขอบคุณนายกฯ เลื่อนภาษี ให้อีกปี หวังรัฐฯแก้ปัญหายั่งยืน
วันที่ 14 ก.ค. นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ. เพชรบูรณ์ กล่าวภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2563 ซึ่งขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ 40% ออกไปอีก 1 ปี เป็นวันที่ 1 ต.ค. 64 เพื่อเยียวยาช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ว่ “พวกเราชาวไร่ยาสูบ 5 หมื่นครอบครัวทั่วประเทศ ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่ช่วยผลักดันให้มีการเลื่อนการขึ้นภาษี 40% ออกไป 1 ปี
แม้จะเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว แบบปีต่อปี แต่ก็ช่วยต่อลมหายใจให้ชาวไร่ยาสูบที่ถูกตัดโควตาลงถึง 50% จนต้องขาดรายได้จุนเจือครอบครัวมา 2 ปีติดกันแล้ว และยังได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด
“เราอยากขอบคุณ ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านทุกท่านที่ไม่ทอดทิ้งชาวไร่ยาสูบ รับฟังความเดือดร้อนและคอยช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบมาตลอดตั้งแต่มีการปรับขึ้นภาษีเมื่อเดือน ก.ย. 60 ปัญหาที่เราเผชิญมาในช่วง 2 ปี นี้ เกิดจากการขึ้นภาษีทีละมาก จนอุตสาหกรรมยาสูบ โดยเฉพาะชาวไร่ยาสูบที่เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรม ปรับตัวไม่ทัน
ซึ่งการเลื่อนการขึ้นภาษีครั้งนี้ก็เหมือนต่อชีวิตให้ชาวไร่ได้อีก 1 ปี แต่ต่อจากนี้อยากให้รัฐบาลมาหาทางแก้ปัญหาแบบยั่งยืน พวกเราอยากเห็นรัฐหันมาค่อย ๆ ขึ้นภาษีบุหรี่ แทนการขึ้นแบบมหาโหดในครั้งเดียว เพื่อจะได้ไม่ทำร้ายเกษตรกร และให้เกษตรกรมีเวลาในการหาอาชีพอื่นหรือพืชทดแทนที่เพียงพอด้วย”
ด้าน นายสุครีพ บุญชุ่ม นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์ จ. สุโขทัย เสริมว่า รู้สึกดีใจและขอขอบคุณรัฐบาลที่เข้าใจและช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ เพราะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด คงไม่ใช่เวลาที่จะมาซ้ำเติมเกษตรกรด้วยการขึ้นภาษีอีกเท่าตัว พวกเราหวังว่าเมื่อมีประกาศเลื่อนภาษีออกมาแบบนี้แล้ว การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จะคงโควตารับซื้อยาสูบจากพวกเราไว้ ช่วยให้ชาวไร่ยังคงมีรายได้จากการขายใบยาต่อไปได้อีก 1 ปีและผ่านช่วงวิกฤติเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 ไปได้”
นายสุครีพ ยังกล่าวถึงเรื่องพืชทดแทนอีกว่า รัฐบาลไม่เคยมีทางออกที่เป็นรูปธรรมให้กับชาวไร่ยาสูบได้เลยทั้งๆ ที่ท่านนายกฯ เคยสั่งการไว้เมื่อปี 2561 แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาส่งเสริมหรือช่วยเหลือหาพืชทดแทนที่รายได้เท่าเทียมกับการปลูกยาสูบมาให้ได้เลย จึงอยากฝากให้รัฐบาลทำการศึกษาเรื่องพืชทดแทนยาสูบและหาข้อมูลต่างๆ ให้รอบด้านก่อนที่จะมาเร่งรัดให้พวกเรารีบปรับเปลี่ยนอาชีพ
“การเลื่อนภาษีครั้งนี้ก็เป็นเพียงการเลื่อนออกไปเพียงแค่ 1 ปี ซึ่งถ้าปีหน้าครบกำหนดการขึ้นภาษีอีกเท่าตัวเป็น 40% ก็คงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการยาสูบฯ และชาวไร่ยาสูบอีกครั้งอย่างแน่นอน พวกเราจึงอยากขอให้รัฐบาลโดยเฉพาะกรมสรรพสามิตหาทางออกระยะยาวให้พวกเราและการยาสูบฯ
เช่น การขึ้นภาษีครั้งละน้อยๆ แทนที่จะขึ้นทีเดียวแบบเท่าตัว ร่วมกับการช่วยหาพืชทดแทนให้ชาวไร่ยาสูบที่สามารถสร้างรายได้เท่าเทียมกับปลูกยาสูบได้ ซึ่งคงไม่ได้ทำกันได้เพียงชั่วข้ามคืนแต่ต้องมีเวลาปรับตัว 2-3 ปี ซึ่งพวกเราจะติดตามเรื่องนี้กับ ส.ส. ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด” นายสุครีพสรุป