รีเซต

"กมลา แฮร์ริส" ติดโควิด - ผลศึกษาพบชาวอเมริกันเกินครึ่ง มีประวัติติดเชื้อโควิดแล้ว

"กมลา แฮร์ริส" ติดโควิด - ผลศึกษาพบชาวอเมริกันเกินครึ่ง มีประวัติติดเชื้อโควิดแล้ว
TNN ช่อง16
27 เมษายน 2565 ( 07:45 )
100
"กมลา แฮร์ริส" ติดโควิด - ผลศึกษาพบชาวอเมริกันเกินครึ่ง มีประวัติติดเชื้อโควิดแล้ว

วันนี้ (27 เม.ย.65) เคอร์สเทน อัลเลน โฆษกประจำสำนักงานรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส มีแถลงการณ์ว่า ผลการตรวจหาเชื้อแบบ PCR พบว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริส มีผลตรวจโควิดเป็นบวก โดยเธอจะกักตัวต่อจากนี้ที่บ้านพักของเธอ แต่จะยังคงทำงานจากบ้านต่อไป และแฮร์ริส ไม่ได้ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจิลล์ ไบเดน ภริยา เนื่องจากตารางการเดินทางในช่วงที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 57 ปีผู้นี้ ได้รับวัคซีนสองเข็ม และเข็มกระตุ้นภูมิ หรือบูสเตอร์อีกสองเข็ม โดยเข็มสุดท้ายฉีดเมื่อวันที่ 1 เมษายน

 

แถลงการณ์ระบุว่า "เธอจะปฏิบัติตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี และคำแนะนำของแพทย์ประจำตัวอย่างเคร่งครัด โดยแฮร์ริส จะกลับไปทำงานที่ทำเนียบขาวเมื่อมีผลตรวจเป็นลบแล้ว"

 

ส่วนผลการศึกษาระดับแอนติบอดีในสหรัฐฯ ชี้ว่า ชาวอเมริกันเกินครึ่ง พบประวัติการติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังคลื่นการระบาดระลอกใหญ่ของโควิดโอมิครอนในสหรัฐฯ เมื่อต้นปี 

 

การศึกษาจากซีดีซี ล่าสุดนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ยืนยันว่ามีประชากรในสหรัฐฯมากกว่าครึ่งหนึ่งที่พบติดเชื้อโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และเป็นการสะท้อนผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐฯ เพราะก่อนที่โอมิครอนระบาดหนักเมื่อปลายปีที่แล้ว ประชากรในสหรัฐฯ ราว 1 ใน 3 ที่พบประวัติการติดเชื้อ

 

ผลการศึกษาของ U.S. nationwide blood survey ที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ศึกษาตัวอย่างเลือดของประชากรในสหรัฐฯ ช่วงเดือนธันวาคมปีก่อนจนถึงกุมภาพันธ์ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โควิดโอมิครอนระบาดรุนแรงในอเมริกา พบว่าร้อยละ 58 ของประชากรอเมริกัน พบประวัติการติดเชื้อโควิด

 

นอกจากนี้ ยังพบว่า ประชากรในวัยเด็ก และผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 มีสัดส่วนการติดเชื้อโควิดในระดับสูงในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิดโอมิครอนในสหรัฐฯ ขณะที่ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มีอัตราการเข้ารับวัคซีนโควิดในสัดส่วนที่สูง มีอัตราการติดเชื้อต่ำในการศึกษานี้

 

นักวิจัยมุ่งเป้าตรวจสอบระดับแอนติบอดีที่ตอบสนองต่อเชื้อโคโรนาไวรัส โควิด-19 ที่จะก่อตัวในร่างกายของผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน แต่ไม่พบในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19

 

ในการศึกษายังพบว่า เด็กอายุ 11 ปีหรือเด็กกว่านั้น ราวร้อยละ 75.2 พบระดับแอนติบอดีที่สะท้อนว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อโควิดมาแล้ว ในช่วงเวลาที่ทำการศึกษาด้วย ซึ่งเพิ่มจากระดับร้อยละ 44.2 ในการศึกษาช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น

 

คริสติน คลาร์ก จากซีดีซี กล่าวถึงการศึกษานี้ว่า การมีระดับแอนติบอดีหลังติดเชื้อโควิด ไม่ได้หมายความว่าได้รับการป้องกันจากการติดเชื้อในอนาคต และการศึกษาดังกล่าวไม่ได้เป็นการมองหาระดับแอนติบอดีที่ให้การป้องกันการติดเชื้อซ้ำหรือการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19 พร้อมย้ำว่า วัคซีนยังเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุด ในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงจากโควิด-19

 

ปัจจุบัน ยอดติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯ แตะระดับ 80.8 ล้านราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากช่วงสัปดาห์ก่อน และอัตราการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 จากช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ยอดเสียชีวิตจากโควิดในสหรัฐฯ ใกล้แตะระดับ 1 ล้านรายแล้ว

 

สำหรับอัตราการฉีดวัคซีน ตอนนี้กว่าร้อยละ 66 ของประชากรอเมริกันได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และเกือบร้อยละ 46 ได้รับวัคซีนกระตุ้นภูมิ.

 

ภาพจาก Reuters

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง