เสพติดการ “ชอปปิง” มากเกินไป จนใช้จ่ายเกินตัว ทำอย่างไรดี?

เคยเป็นกันมั้ย? เครียดทีไร ใช้เงินแก้ปัญหาตลอด ยิ่งชอปปิงออนไลน์และมีแคมเปญลดราคาทีไร ยิ่งเปิดทางให้อยากใช้จ่ายมากขึ้นเท่านั้น ใช้เงินซื้อความสุขคงเป็นทางออกที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เพราะเห็นผลเรื่องความสุขได้ไว แต่นิสัยการใช้จ่ายที่เกินตัวอาจทำให้หลาย ๆ คนหนีไม่พ้นความเครียดในช่วงสิ้นเดือน
มาดูกันว่าในทางจิตวิทยา ทำไมเวลาเครียดหรือไม่สบายใจ ถึงอยากไปชอปปิงซื้อความสุขให้ตัวเอง บทความนี้ เรามีคำอธิบายและแนวทางรับมือเรื่องการใช้จ่ายเกินตัวมาฝาก โดย “อริษา เบ็ญอะดรัม” นักจิตวิทยาคลินิก Me Center
ทำไมการชอปปิงถึงช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น?
การช็อปปิงไม่ว่าจะเป็นการเลือกสินค้า เปรียบเทียบ หรือหยิบใส่ตะกร้า การได้เห็นตัวเลือกสินค้าหลาย ๆ อย่าง หรือแม้กระทั่งแค่เลือกดูสินค้าเฉย ๆ เป็นขั้นตอนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถควบคุมชีวิตได้ในวันที่รู้สึกวุ่นวายหรือหมดพลัง (sense of control) และจากการศึกษาพบว่าการช็อปปิงสามารถกระตุ้นสมองให้หลั่งโดพามีน (dopamine) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “ความสุขและแรงจูงใจ” การได้เลือกและครอบครองสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เราสามารถเป็น “ผู้เลือก” และมีอำนาจในการตัดสินใจ จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด เนื่องจากบ่อยครั้งความเครียดมักเกิดจากความรู้สึกถูกกดดัน ไม่มีสิทธิเลือก รวมถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย นี่คือเหตุผลที่เรียกกันติดปากว่า “Shopping therapy” หรือ “บำบัดด้วยการช็อป” เพราะมันช่วยบรรเทาอารมณ์ไม่ดีได้แบบทันใจ แม้จะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ
หลายคนคงเคยรู้สึกว่าเวลาที่เครียด เหงา หรืออารมณ์ไม่ดี การชอปปิงช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้น แต่ถ้า “การซื้อ” กลายเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ควรซื้อ ซื้อบ่อย ๆ ซื้อแล้วไม่ได้ใช้วางไว้เฉย ๆ แต่ก็ยังไม่หยุดซื้อ นั่นอาจเรียกว่า พฤติกรรมการซื้อแบบไม่ไตร่ตรอง (Compulsive buying behavior) หรือบางครั้งถูกจัดว่าเป็น การบริโภคเสพติด (Behavioral Addiction)
เมื่อไหร่ที่เรียกว่าช็อปปิงจน “น่าเป็นห่วง”?
การซื้อของทั่วไปไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเริ่มมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อย ๆ อาจเข้าข่าย เช่น
-ซื้อของทั้งที่ไม่ได้จำเป็น
-คิดถึงการช็อปปิงแทบตลอดเวลา
-ไม่ได้ซื้อแล้วรู้สึกกระวนกระวาย
-ใช้เงินเกินรายได้ จนกระทบหนี้สินหรือชีวิตประจำวัน
-หลังซื้อเสร็จ รู้สึกผิด แต่ก็ยังหยุดไม่ได้
พฤติกรรมการซื้อเพื่อลดความเครียดไม่ได้เกิดจาก “ความอยากได้สินค้า” แต่เกิดจาก “ความต้องการจัดการอารมณ์ด้านลบ” (emotion regulation) โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือไม่พอใจในชีวิต ซึ่ง
สัมพันธ์กับหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยด้านการจัดการความเครียดและอารมณ์ (Stress coping / Emotional regulation difficulties) เป็นพฤติกรรมที่บุคคลใช้การซื้อของเป็น “กลไกเผชิญความเครียดแบบหลีกหนี (avoidance coping)” สมองได้รับ dopamine ขณะซื้อ ทำให้รู้สึกดีชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ต้นเหตุของความเครียด จึงเกิดวงจรซื้อ–รู้สึกดี–รู้สึกผิด–ซื้ออีก
ปัจจัยทางจิตเวชหรือบุคลิกภาพ (Psychiatric / personality-related)
Impulse Control → มีความยากลำบากในการควบคุมแรงกระตุ้น เช่น เครียดนิดเดียวก็ต้อง “ซื้อ”
Obsessive-compulsive traits → หมกมุ่น คิดวน หรือรู้สึกว่าต้องซื้อถึงจะสบายใจ
Addictive pattern → พฤติกรรมซื้อของเริ่ม “เสพติด” คล้ายกับ substance use
Mood disorders (Depression / Bipolar / Anxiety) → ใช้การช็อปปิงชดเชยอารมณ์ด้านลบ เช่น ความรู้สึกเครียด กังวล ว่างเปล่าหรือโดดเดี่ยว เป็นต้น
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้กำลังพบมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบทั้งจิตใจและชีวิตประจำวัน เช่น ความรู้สึกผิด ความกังวล ไปจนถึงปัญหาการเงินและหนี้สินที่ตามมา
การตระหนักรู้และเท่าทันตัวเองรวมถึงการหาวิธีจัดการกับแรงกระตุ้นทางอารมณ์ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะช่วยให้เรา “เลือกซื้ออย่างมีสติ” และไม่ให้การช็อปปิงกลายเป็นปัญหาตามมา
วิธีดูแลใจโดยไม่ต้องใช้เงิน
ถ้าไม่อยากให้การใช้เงินซื้อความสุขกลายเป็นความทุกข์ ลองหากิจกรรมอื่นที่ช่วยคลายเครียดได้ เช่น
ฝึกสติ (Mindfulness) รับรู้อารมณ์และความต้องการจริง ๆ ของตัวเอง
เขียนบันทึกความรู้สึก ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
ออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นการหลั่ง เอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และ เซโรโทนิน (Serotonin) ที่ช่วยควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงขึ้น
ทำงานสร้างสรรค์ วาดรูป ร้องเพลง เล่นดนตรี
คุยกับคนที่ไว้ใจ ได้รับการปลอบใจแทนการหันไปหารถเข็นออนไลน์
การชอปปิงไม่ใช่เรื่องผิด และบางครั้งก็เป็นการเติมเต็มใจที่ดีในช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าปล่อยให้ “รถเข็นหรือตะกร้าออนไลน์” เป็นตัวกำหนดอารมณ์และการใช้เงิน ความสุขที่ควรได้อาจกลายเป็นปัญหาระยะยาวแทน ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ “การซื้ออย่างมีสติ” (Mindful Spending) รู้จักความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง และเลือกวิธีดูแลใจที่ไม่ทำร้ายอนาคตของเราเอง
หากสนใจปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ติดต่อได้ที่
Me Center คริสตัล ดีไซน์ เซนเตอร์ (CDC) ชั้น 2 โทร 085-355-2255
Me Center ศูนย์สมองและสุขภาพจิต ชั้น 8 โรงพยาบาลอินทรารัตน์ โทร 02-481-5555 ต่อ 8300
Line Official: @mecenter (https://lin.ee/mCheDsu)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
