รีเซต

หุ้นแบงก์ โอกาส หรือ ความเสี่ยง?

หุ้นแบงก์ โอกาส หรือ ความเสี่ยง?
ทันหุ้น
13 มีนาคม 2566 ( 12:35 )
72

#ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอน เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ นายกฯ ได้มอบหมายทีมเศรษฐกิจติดตามสถานการณ์จากที่เกิดกรณีธนาคาร 2 แห่งในสหรัฐ ได้ปิดตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดเงิน และ ตลาดทุนทั่วโลก พร้อมกับประเมินผลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่เพียงใด ซึ่งยังไม่มีธนาคารหรือสถาบันการเงินของไทยมีการลงทุนหรือมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับธนาคารที่มีปัญหาทั้ง 2 แห่ง 

 

พร้อมประเมินว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเงินสหรัฐฯ น่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากทั้ง 2 แห่งมีการทำธุรกิจที่มีความเฉพาะ ไม่ได้มีการบริการแบบกว้างขวางเช่นธนาคารพาณิชย์ทั่วไป และทางการสหรัฐฯ ได้เข้าดำเนินการเพื่อดูแลปัญหาที่รวดเร็ว 

 

ทางด้านฐานะของสถาบันการเงินไทยทั้งระบบมีความแข็งแกร่ง โดยธปท.มีการกำกับด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด ซึ่งมาตรการการกำกับระบบสถาบันการเงินของไทยมีการปรับปรุงให้ดูแลความเสี่ยงอย่างรอบด้าน รัดกุม มาตั้งแต่หลังวิกฤตปี 2540 ทำให้ในรอบ 20 กว่าปีที่ผ่านมา แม้มีวิกฤตการเงินโลกหลายครั้ง รวมถึงวิกฤติโควิด-19 แต่สถาบนการเงินไทยทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐยังสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจไทยได้ด้วยฐานะที่แข็งแกร่ง

 

ข้อมูลจากธปท.ระบุว่า ณ สิ้นปี 65 ธนาคารพาณิชย์ไทยทั้งระบบ มีเครื่องชี้ฐานะทางการเงินในระดับสูง โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio)19.4% สภาพคล่อง(Liquidity coverage ratio: LCR) สูงถึง 197.3% มีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ในระดับต่ำที่ 2.73% ขณะที่เงินสำรองต่อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Coverage ratio) สูงถึง 171.9% การให้สินเชื่อและรับเงินฝากในภาพรวมมีการกระจายตัว ไม่กระจุกตัวในลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนี่ง 

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีระบบดูแลเงินฝากที่เข้มแข็งด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีจำนวน 1.34 แสนล้านบาท คุ้มครองเงินฝาก 1 ล้านบาทต่อราย ซึ่งกองทุน ณ ปัจจุบันสามารถครอบคลุมผู้ฝากเงินกว่า 98% ซึ่งเป็นผู้ฝากส่วนใหญ่ของประเทศ 

 

มุมมองต่อธนาคารพาณิชย์ไทย

 

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการปิดธนาคารสหรัฐ 2 แห่งดังกล่าว กระทบ sentiment เชิงลบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย  แต่ในเชิงพื้นฐานมองว่าธนาคารพาณิชย์ไทยยังคงมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากจากเงินกองทุนที่อยู่ระดับสูงถึง 19.4% ขณะที่มองการเกี่ยวโยงกันโดยตรงแทบไม่มี  มองในระยะสั้น ราคาหุ้นธนาคารไทยมีโอกาสปรับตัวลงจากความกังวลข่าวดังกล่าว แต่ในเชิงพื้นฐานมองเป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุนระยะยาว 

 

โดย Top Picks เลือก BBL (TP:190)ได้ประโยชน์จากการเติบโตของกิจการในต่างประเทศจากการฟื้นตัวของประเทศแถบอาเซียน และ KTB(TP:21) ได้ประโยชน์จากการขยายฐานและต่อยอดลูกค้าในทุกแพลตฟอร์มทั้งเป๋าตังและถุงเงิน บวกกับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น รองลงมา คือ KKP(TP:95) ยังโดดเด่นทั้งธุรกิจธนาคารและหลักทรัพย์ บวกกับมีปันผลสูงสม่ำเสมอ ล่าสุดประกาศจ่ายปันผลสำหรับ 2H65 @1.50 บ. พร้อมแจกวอร์แรนท์ KKP-W3, KKP-W4 ในอัตรา 12 KKP ได้ 1KKP-W3 และ 1KKP-W4 ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคตตามราคาหุ้นแม่ที่ยังมี upside เปิดกว้างอยู่

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง