MAJORหนังไทยบูมตั๋วขายดี โฆษณาเข้ารายได้โตทุกธุรกิจ

#MAJOR #ทันหุ้น - MAJOR บูมภาพยนตร์ไทยต่อเนื่องหลัง “หลานม่า” ควงคู่ “อนงค์” กวาดรายได้หนุนผลงานโค้งสองโตต่อเนื่องทั้ง QoQ YoY ยังมี “ธี่ หยด 2” จ่อเข้าโรงปลายไตรมาส 3/2567 ต่อเนื่องไตรมาส 4/2567 เอื้อรายได้โฆษณาโต ด้านโบรกคาดไตรมาส 2/2567 น่าจะออกมาโดดเด่น แถมมีตัวช่วยจากผลประโยชน์ทางภาษีการขายหุ้น ZAA เคาะ “ซื้อ” เป้า 21.50 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2567 (QoQ) และมีแนวโน้มเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หนุนจากภาพยนตร์ที่กระแสตอบรับดี โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยหลานม่า ซึ่งทำรายได้สูงกว่าภาพยนตร์ชั้นนำจากฮอลลีวูดที่เข้าฉายช่วงเดียวกันปีก่อน และ เรื่องอนงค์ ที่บริษัทร่วมผลิตกับค่ายเวิร์คพอยท์
รวมถึงยังมีภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ที่จะทยอยเข้าฉายต่อเนื่องตลอดไตรมาส 2/2567 อาทิ Kingdom of the Planet of the Apes, Official Trailer, Inside Out 2, The Watchers, Bad Boys Ride or Die ขณะเดียวกันรายได้จากโฆษณาเองก็เติบโตขึ้นได้สอดคล้องกับกระแสความนิยมของภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีสายงานการตลาดที่เจาะเข้าสู่องค์กรธุรกิจ- สถาบันการศึกษาในลักษณะรอบฉายเหมาโรงภาพยนตร์ เข้ามาเสริมศักยภาพทางธุรกิจโรงภาพยนตร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
*รายการหนังจ่อเข้าโรง
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีภาพยนตร์ไทยคุณภาพเข้าฉายในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 (2H67) อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ “ธี่ หยด 2” ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายช่วงเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2567
"สำหรับหลานม่ารายได้รวมก็สูงกว่าภาพยนตร์ฮอลีวูดที่เข้าฉายช่วงเดียวกันปีก่อน ดังนั้นรายได้ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษจากกากขายหุ้นก็น่าจะเติบโตได้ดีกว่า ขณะเดียวกันรายได้โฆษณาก็เร่งตัวขึ้นได้เพราะความเชื่อมั่นในกระแสภาพยนตร์ไทย"
สำหรับธุรกิจผลิต-พัฒนาและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยว (Snack) บริษัทยังคงเพิ่มช่องทาง จัดจำหน่าย "POPCORN MAJOR" เข้าสู่ช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นทั้งการนำเข้าสู่ Hypermarket, Supercenter ฯลฯ ควบคู่กับการผลิต POPCORN MAJOR รสชาติใหม่เพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำ และพิจารณาผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 อีกราว 1-2 รสชาติ ส่วนธุรกิจโบว์ลิ่งรายได้ก็ยังคงเติบโตได้ดี
*แนะ"ซื้อ"เป้า 19.40 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) คาดการณ์รายได้รวมไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มออกมาโดดเด่น โดยธุรกิจโรงภาพยนตร์มีหนังไทยทําเงินอย่าง “หลานม่า” ที่กวาดรายได้ถล่มทลายมากกว่า 300 ล้านบาท และ “อนงค์” ที่ขึ้นแท่นหนังทําเงินเกิน 100 ล้านบาทเช่นกัน ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง Godzilla x Kong The New Empireและ Kingdom Planet of the Apes น่าจะเป็นหนังฮอลิวูดทําเงินติดอันดับ Top 5 ในไตรมาสนี้ได้
คาดว่ารายได้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม รวมไปถึงธุรกิจโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ที่บรรดาเอเจนซี่โฆษณาและเจ้าของแบรนด์สินค้าจะมีความมั่นใจในการลงโฆษณามากขึ้น นอกจากนี้ MAJOR ยังมีตัวช่วยเพิ่มเติมจากผลประโยชน์ทางภาษีจากการขายหุ้น ZAA (ชื่อเดิมคือ MPIC) ที่ยังเหลืออีกราว 70-80 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะรับรู้ได้ในไตรมาส 2/2567 นี้
โดยกระแสความนิยมภาพยนตร์ไทยที่กลับมา ทำให้ MAJOR ไม่ต้องพึ่งพิงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลิวูดเหมือนในอดีต และจะมีรายได้ในแต่ละไตรมาสที่ผันผวนน้อยลง ส่งผลต่อเนื่องไปถึงธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจป๊อปคอร์นและธุรกิจโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ขณะที่การลดทุนที่เกิดขึ้นทำให้ MAJOR มีจำนวนหุ้นลดลง ส่งผลต่อการประเมิน Fair Value ภายใต้วิธี DCF ที่ปรับขึ้นจาก 20.00บาท เป็น 21.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”