Bitazza จับมือ Tether ดันศูนย์เรียนรู้ Stablecoin หนุนตลาดคริปโตไทยโตยั่งยืน

#Bitazza #ทันหุ้น - บริษัท บิทาซซ่า จำกัด หรือ Bitazza Thailand คาดนักลงทุนสถาบันให้ความมั่นใจและลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นหลังสหรัฐอเมริกาและชาติอื่น ๆ ผ่านกฎหมายรองรับสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) โดยอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ในที่สุด รวมถึงล่าสุด Bitazza Thailand ได้จับมือ Tether ผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์ชั้นนำระดับโลกและเหรียญที่มีผู้ใช้เยอะที่สุดอย่างเหรียญ USDT เพื่อสร้างศูนย์กลางความรู้สำหรับคนไทยอย่างต่อเนื่อง
นายธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด โบรกเกอร์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำในประเทศไทยกล่าวว่า หนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของโลกในปีนี้ คือ การยอมรับสเตเบิลคอยน์ ล่าสุดวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาได้รับรองกฎหมาย GENIUS Act ที่จะอนุญาตให้สามารถออกสเตเบิลคอยน์ได้อย่างถูกต้องรวมถึงสนับสนุนให้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในการออกสเตเบิลคอยน์เพื่อการชำระเงินและสนับสนุนบทบาทของดอลลาร์สหรัฐในเวทีโลก
“การที่ราคา Bitcoin สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่สหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมายดังกล่าวเพราะจะเป็นช่องทางที่ทำให้นักลงทุนสถาบันทั่วโลกเข้ามาลงทุนใน Bitcoin มากขึ้น” นายธนวัตกล่าว
นอกจากนี้ เขตปกครองพิเศษฮ่องกงยังได้อนุมัติกฎหมายในลักษณะดังกล่าวออกมารวมถึงดูไบเองก็ได้ออกกฎหมายรองรับการใช้งานสเตเบิลคอยน์เพื่อการชำระเงินเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกหนุนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว โดย Citi Group คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกจะเพิ่มจากปัจจุบัน 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573
“สเตเบิลคอยน์ถือเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลเพราะนักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกต่างต้องใช้งานสเตเบิลคอยน์ในการซื้อขาย โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่ต้องการสื่อกลางในการลงทุนที่เชื่อถือได้และมีกฎหมายรับรอง มองว่าความชัดเจนในด้านกฎหมายที่เกิดขึ้นจะช่วยดึงนักลงทุนสถาบันเข้ามาในโลกสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นซึ่งจะเป็นการผลักดันตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายธนวัตกล่าวเสริม
ปัจจุบันมีบริษัทผู้สร้างสเตเบิลคอยน์เป็นจำนวนมากและหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีสกุลเงินเฟียต (Fiat) หนุนหลัง 100% โดยเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัท Tether ผู้สร้างเหรียญ USDT ถือว่ามีสัดส่วนตลาดสูงที่สุดที่ 61% ล่าสุดเพิ่งทำลายสถิติในเชิงของมูลค่าตลาด (Market Cap) แตะระดับ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปริมาณเหรียญ USDT ที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นกว่า 36% การเติบโตยิ่งเร่งตัวขึ้นนับตั้งแต่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ Bitazza Thailand ได้จับมือกับ Tether ในการสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้สเตเบิลคอยน์เพื่อคนไทย รองรับการขยายตัวของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต ล่าสุดได้ออกแคมเปญ Learn, Buy & Earn ที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้งาน Bitazza Thailand ศึกษาเรื่องสเตเบิลคอยน์ผ่านการดูคลิปวีดีโอ พร้อมทำแบบทดสอบ เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษจาก Tether และ Bitazza Thailand และสำหรับ 50 คนแรกจะได้กระบอกน้ำเก็บความเย็น Tether x Bitazza Thailand รุ่น Limited Edition โดยแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 นี้
อ้างอิงข้อมูลรายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญจาก https://blogth.bitazza.com/th/blog/learn-buy-earn-15-usdt