รีเซต

WPHเต็งหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ยูโรป-สหรัฐรักษาต่อเนื่อง

WPHเต็งหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ยูโรป-สหรัฐรักษาต่อเนื่อง
ทันหุ้น
23 พฤษภาคม 2568 ( 13:05 )
14

#WPH #ทันหุ้น – WPH รับอานิสงส์ผู้ใช้บริการทะลัก หนุนไตรมาส 2/2568 ฟอร์มแจ่ม พร้อมตอกย้ำปีนี้รายได้โต 15-20% จากปีก่อน หลังไตรมาสแรกกวาดรายได้รวม 724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% มีกำไรสุทธิ 182 ล้านบาท เติบโต 64% ผู้บริหาร “เชน เหล่าสุนทร” แจงนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยลดไม่กระทบ ระบุฐานส่วนใหญ่เป็นโซนยุโรป-สหรัฐอเมริกา


นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2568 น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะภาพรวมผู้เข้าใช้บริการตรวจและรักษาขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับธุรกิจมีการขยายฐานอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางผลประกอบการในปี 2568 บริษัทประเมินว่ารายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2567 เพราะแนวโน้มผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น หลังโรงพยาบาลของธุรกิจในทำเลต่างๆ ได้รับการตอบรับดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากการขยายฐานผู้ใชับริการในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม


*โค้งแรกกำไรโต 64%

ขณะที่ไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ถึงแม้สถานการณ์ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ที่ยังมีความไม่แน่นอนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล บริษัทยังคงสร้างรายได้ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาลที่ 724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จาก QoQ และ 25%  YoY


โดยรายได้จากการรักษาพยาบาลยังคงเพิ่มขึ้น 25%รวมถึงบริษัทมีการบริหารจดัการต้นทุนที่ดีขึ้น และเกิดการประหยัดจากขนาด ( Economies of Scale) จากการขยายของกลุ่มกิจการส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 25% ปรับเพิ่มจากไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 4/2567 ซึ่งอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 19% และ 13% ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 อยู่ที่จ 182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 4/2567 คิดเป็น 64% และ 162% ตามลำดับ


*นักท่องเที่ยวจีนลดไม่กระทบ

ขณะเดียวบริษัทได้มีการขยายการให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง ห้องปฏิบัติการตรวจสวนหัวใจ (Cath Lab) ในช่วงที่ผ่านมา (ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ยาว 8 ปี) ที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง รวมถึงการเพิ่มจำนวนห้อง ICU และห้องพักผู้ป่วยเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยช่วยผลักดันการเติบโตของปี 2568 อีกทางหนึ่ง


นอกจากนี้ ทาง WPH ได้มีการพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ภูเก็ต” ซึ่งมีมูลค่าโครงการราว 1.2 พันล้านบาท ขนาด 5 ชั้น รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 200 เตียง คาดเปิดดำเนินการได้ช่วงปลายปี2569เพื่อเป็นขยายฐานธุรกิจและช่องทางสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น คาดช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคตต่อไป


สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่ปรับตัวลดลง บริษัทมองว่าไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากฐานผู้ใช้บริการในบริการจากต่างประเทศนั้นมาจากลุ่มประเทศในโซนยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก (เดิมสิ้นปี 2567 สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติอยู่ที่ราว 25%)


*เชียร์ซื้อเคาะเป้า 11 บาท

บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จํากัด (มหาชน) มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น WPH เนื่องจากมองว่าจะได้ประโยชน์จากโรงพยาบาลอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในภาคใต้ของไทย อย่าง เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี, อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง ทำให้มีการเติบโตของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาตินี้ถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับทางบริษัท เนื่องจากมีการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน และมีจำนวนวันนอนมากกว่ากลุ่มผู้ป่วยคนไทย ส่งผลให้มีรายได้ต่อการรักษาที่สูงกว่า และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่า ซึ่งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือที่ให้บริการอยู่3 แห่ง ได้แก่ 1. รพ.วัฒนแพทย์ตรัง ขนาด 120 เตียง, 2. รพ.วัฒนแพทย์อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ขนาด 90 เตียง และ3. รพ.วัฒนะแพทย์ สมุย บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขนาด 53 เตียง มีจำนวนเตียงรวม 263 เตียง


ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำไรสุทธิช่วงปี2567-2569 จะอยู่ที่ 315, 401 และ 450 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 239%, 27% และ12% ตามลำดับ โดยในปี 2567 ได้แรงหนุนจาก1. การรับรู้รายได้จาก วัฒนแพทย์สมุย เข้ามาอย่างเต็มปี, 2. การเพิ่มจำนวนเตียงของ วัฒนแพทย์อ่าวนาง เฟส 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ได้ยกเว้นภาษี และ 3. การเริ่มให้บริการ Cath Lab ตั้งแต่ไตรมาส1/2567 สำหรับในปีถัดไป ในปี 2568จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 11.00 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง