ประชาชนเรียกร้องนายกฯใหม่ สานต่อเงินดิจิทัลช่วยค่าครองชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจ

ทีมข่าว TNN ช่อง 16 ลงพื้นที่ ตลาดนัดจัตุจักร หนึ่งจุดสำคัญที่จะทำให้เงินสะพัดหมุนเวียนจำนวนมากหากโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทได้รับการสานต่อจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะอาจกระตุ้นให้ ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพออกมาใช้จ่ายในแหล่งการค้าขนาดใหญ่กันมากขึ้น

นางสาวทิพยวรรณ แย้มสรวล ผู้ค้าใรตลาดนัดจตุจักร  เผยว่า ได้เข้าร่วมลงทะเบียนโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยากให้รัฐบาลใหม่สานต่อโครงการฯ เพราะประชาชนทุกคนรอคอยมานานแล้ว โดยวางแผนจะเงินที่ได้มาใช้จ่ายซื้อของจำเป็นในครอบครัว พร้อมบอกว่าอยากให้ปรับเปลี่ยนให้จ่ายเป็นเงินสด 10,000 บาท หรือลดเงื่อนไขโครงการฯ ให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกที่ทั่วประเทศ จะทำให้การค้าขายในตลาดนัดตามพื้นที่ต่างๆ มีเงินสะพัดมากขึ้น 

ขณะที่นายสมศักดิ์ หล้าสมบูรณ์ ที่ประกอบอาชีพค้าขาย  เผยว่า ไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว เพราะไม่ทันต่อความเดือดร้อน  แต่ควรจะเร่งดำเนินการ จ่ายเงินงวดแรกให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด หรือเป็นไปได้ควรก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้วางแผนการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย ที่เดินทางมาทำงานในกรุงเทพและต้องการซื้อสินค้ากลับบ้าน โดยมองว่าเงิน 10,000 บาท เป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนในยุคปัจจุบัน

ด้าน อนุสรณ์ กอสัมพันธ์ ผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักร เผยว่า ตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจลงทะเบียนรับเงินในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้เงินตามนโยบายที่รัฐบาลให้ไว้ แต่ขณะนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็ยังมีความหวังว่าจะสานต่อโครงการให้เกิดได้เร็วขึ้น เพราะหากได้เงินมาใช้จ่ายในครัวเรือนก็จะช่วยต่อลมหายใจประชาชนหลายที่มีรายได้น้อยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ยังฝากเพียงรัฐบาลว่า อยากให้คิดถึงปากท้องของประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจหลังโควิดทำให้การค้าขายยังทรงตัว และอยากให้มีนโยบายช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่ไฟ ค่าเดินทาง ให้ลดลงมาเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น