รีเซต

IPบุกตลาดญี่ปุ่นอัพฐาน ปักธงรายได้5ปี5พันล้าน

IPบุกตลาดญี่ปุ่นอัพฐาน ปักธงรายได้5ปี5พันล้าน
ทันหุ้น
24 ตุลาคม 2568 ( 07:15 )
4

#IP #ทันหุ้น – IP ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/2568 เติบโตใกล้เคียงไตรมาส 1-2/2568 หนุนธุรกิจโรงพยาบาล-สัตว์เลี้ยง มาร์จิ้นสูง ลุยขยายสาขา “Lab Pharmacy” เพิ่ม 50 สาขาปีนี้ พร้อมบุกตลาดยาหยอดตาและยีนบำบัดในอนาคต ส่วนธุรกิจ OEM เล็งขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่น คาดรายได้ 5 ปีโต 2 เท่า แตะ 4,000–5,000 ล้านบาท และเตรียมจ่ายปันผลเพิ่มปีหน้า

ดร.ตฤณวรรธน์  ธนิตนิธิพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร สำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่องใกล้เคียงกับไตรมาส 1 และ 2/2568 เนื่องจาก 6 กลุ่มธุรกิจหลักยังเติบโตได้ดี โดยธุรกิจที่สร้างรายได้และมีมาร์จิ้นมากที่สุดคือ ตลาดโรงพยาบาลและผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง

ด้านธุรกิจร้านขายยา ยอดขายเติบโตมากที่สุด ซึ่งเพิ่มจากการขยายสาขาร้านยาภายใต้แบรนด์ “Lab Pharmacy” แต่อาจได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเล็กน้อย โดยปีนี้คาดว่าจะขยายได้ 50 สาขา จากปีก่อนที่มี 40 สาขา และขยายเพิ่มอีก 10 สาขา ในปีหน้า    

ส่วนตลาดผู้บริโภคยังเติบได้ดีตามสภาพตลาด และธุรกิจโรงพยาบาลมีการ Renovate ส่งผลให้ผลประกอบการเริ่มกลับมาดีเหมือนเดิม นอกจากนี้ธุรกิจเครื่องมือเกี่ยวกับเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัดกำลังขยายตัว จากการที่บริษัทได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท เมตตา เมดเทค จำกัด และเปลี่ยนซื่อมาเป็น Interpharma Medtech ซึ่งเป็นการต่อยอดให้ธุรกิจมีความครบวงจร และมีแผนที่รวมการกับ “คุณวู้ดดี้” ที่งาน Life Expo

*รายได้ปีนี้โต 20%

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/2568 จะเติบโตขึ้นมากกว่าไตรมาสก่อนๆ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน ทำให้คาดว่ารายได้ปี 2568 จะเติบโตขึ้นประมาณ 20% แต่ในส่วนของกำไรจะเติบโตโดดเด่น เพราะว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้ลงทุนจำนวนมากจากการไปซื้อธุรกิจและการปรับปรุงกิจการต่างๆ

ซึ่งในปีนี้ไม่ได้ลงทุนมากเท่าเมื่อก่อนเหลือเพียงแต่การขยายสาขาร้านขายยา ดังนั้นบริษัทจึงกำลังพิจารการจ่ายปันผลเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะกลับมาเป็นหุ้นปันผลได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป

*บุกตลาดยาหยอดตา-ยีนบำบัด

ทั้งนี้กลยุทธ์การเติบโตในอนาคตนอกจากอาหารสุขภาพ อาหารเสริม และเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว จะเน้นขยายนวัตกรรมไปด้านยายอดตาจะออกผลิตภัณฑ์ครบวงจรที่เป็นแบรนด์ของบริษัทในปี 2569 เช่น ยาหยอดตาสำหรับสายตาสั้นและสายตายาว, ตาอักเสบ, ตาแห้ง, และต้อหินโดยเฉพาะต้อหินที่เพิ่มมากขึ้นในผู้สูงอายุ 

ปัจจุบันบริษัทมีการรับจ้างผลิตอยู่แล้ว เนื่องจากเริ่มมีกระแสการใช้ยายอดตามากขึ้น เพราะคนเริ่มใช้ตาเยอะมากขึ้น รวมถึงมีอาการตาแห้ง และในปี 2570 คาดว่าจะออกนวัตกรรมยีนบำบัด โดยคาดว่าจะสามารถขออนุมัติ อย. และออกจำหน่ายได้ ในช่วงประมาณครึ่งปีหลัง 2570 ส่งผลให้ผลประกอบการอีก 2 ปีข้างหน้าจะเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น

*ขยายธุรกิจ OEM อัพพอร์ต

อย่างไรก็บริษัทได้เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารและนักลงทุนชาวญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมชมโรงงานที่จังหวัดอยุธยา และก่อนหน้านี้ยังมีกลุ่มคณะญี่ปุ่นเข้ามาแล้ว 2-3 คณะ มีทั้งบริษัทผลิตยา, บริษัทนวัตกรรม, ร้านค้าขายยา, และโรงงานยา โดยมาเพื่อว่าจ้างให้บริษัทช่วยผลิตสินค้าให้ เพราะต้องการที่จะขยายตลาดออกนอกประเทศญี่ปุ่น เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน แต่ทางญี่ปุ่นอยากได้มาตรฐานสูงสุดคือ EU Standard ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้รับภายในปีหน้า

โดยปัจจุบันบริษัทเริ่มรับ OEM ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีที่แล้วและในปีนี้เริ่มรับงาน OEM เยอะมาก ทำให้มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10% คิดเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท และเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง หากได้งานบริษัทจะรับรู้กำไรทันที ซึ่งบริษัทค่อนข้างเลือกงาน OEM ที่มีคุณภาพต้องการลูกค้าที่มีแผนการขายและการตลาดระยะยาว

ดังนั้นหากโรงงานที่อยุธยาได้รับ EU Standard อาจจะต้องผลิตตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน รวมกับโรงงานที่สมุทรปราการ จะทำให้จำนวนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ส่งผลให้ภายใน 5 ปี (2569-2573) รายได้เติบโตขึ้น 2 เท่า แตะ 4,000-5,000 ล้านบาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง