"หิวแสง" วิถีชีวิตยุคดิจิทัลที่น่าห่วง
"หิวแสง" วิถีชีวิตยุคดิจิทัลที่น่าห่วง
เมื่อพูดถึงคำว่า "หิวแสง" หลายคนคงนึกถึงภาพคนที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งความสนใจในโลกออนไลน์ หรือออฟไลน์ ปรากฏการณ์นี้กำลังกลายเป็นโรคระบาดทางสังคมที่น่าวิตก โดยเฉพาะในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเป็น "คนดัง" ได้เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก
ย้อนมองสาเหตุของการ "หิวแสง" เราจะพบว่ามันเป็นผลพวงจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียที่ทำให้ทุกคนมีพื้นที่แสดงตัวตน ผสมกับค่านิยมสังคมที่วัดคุณค่าของคนจากยอดไลค์และยอดฟอลโลว์ จนหลายคนหลงทางและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างดราม่า การแฉ การโพสต์เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่การสร้างเรื่องเท็จ
น่าคิดว่าทำไมคนถึงรู้สึกว่าชีวิตจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมีคนมากดไลค์หรือแสดงความเห็นใต้โพสต์ บางคนถึงขั้นเสพติดการได้รับความสนใจ จนต้องโพสต์อะไรใหม่ๆ ออกมาหาพื่นที่สื่อได้ทุกวัน เหมือนกำลังวิ่งไล่ตามความนิยมที่ไม่มีวันพอ
สื่อเองก็มีส่วนในการกระตุ้นพฤติกรรมนี้ ด้วยการนำเสนอข่าวที่เน้นความดราม่า หวือหวา เพื่อดึงดูดคลิก จนบางครั้งละเลยการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา
แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือผลกระทบต่อเยาวชน ที่เติบโตมาพร้อมกับค่านิยมว่าการได้รับความสนใจคือความสำเร็จ จนลืมพัฒนาตัวเองในด้านอื่นๆ ที่มีความหมายมากกว่า
ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ด้วยการตระหนักว่าคุณค่าที่แท้จริงของคนไม่ได้อยู่ที่ยอดไลค์หรือจำนวนผู้ติดตาม แต่อยู่ที่การสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและสังคม
สุดท้ายแล้ว การแสดงออกในพื้นที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรทำด้วยความพอดีและมีสติ คิดก่อนโพสต์ และถามตัวเองเสมอว่าสิ่งที่กำลังจะแชร์นั้นสร้างคุณค่าอะไรให้กับสังคมบ้าง
เพราะในโลกที่ทุกคนกำลัง "หิวแสง" บางทีการ "พอใจในความพอดี" อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ภาพ Freepik