UN พบ 'คนอดอยาก' ในลาตินอเมริกา ปีเดียวเพิ่มขึ้น 13.8 ล้านคน
ซานติอาโก, 1 ธ.ค. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ในกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของชิลี เปิดเผยว่าจำนวนผู้ที่เผชิญความอดอยากในภูมิภาคลาตินอเมริกาและคาริบเบียนเพิ่มขึ้น 13.8 ล้านคน หรือสองจุดในปี 2020 ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 59.7 ล้านคน
รายงาน "ผลสรุปความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการระดับภูมิภาคประจำปี 2021 : สถิติและแนวโน้ม" พบความอดอยากในภูมิภาคลาตินอเมริกาและคาริบเบียนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000 หลังจากจำนวนผู้ที่เผชิญความอดอยากเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากปี 2019 ถึงปี 2020
แถลงการณ์จากฮูลิโอ เบอร์เดเก ตัวแทนภูมิภาคขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า "เราต้องสร้างความชัดเจนว่าภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนกำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตด้านความมั่นคงทางอาหาร"
รอสซานา โปลาสตรี ผู้อำนวยการภูมิภาคของกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรม (IFAD) เผยว่าความอดอยากในภูมิภาคดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2014 ขณะการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำให้สถานการณ์แย่ลง
"เราต้องแก้ไขปัญหาที่ฝังรากลึกในระบบอาหาร ทำให้ครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น และรับรองว่าระบบจะมอบสวัสดิภาพอันดีแก่ประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญของสังคม" โปลาสตรีกล่าว
ปัจจุบันอัตราความอดอยากของภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนอยู่ที่ร้อยละ 9.1 ซึ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี แม้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ร้อยละ 9.9 ก็ตาม
อนึ่ง ผลการศึกษาดังกล่าวเป็นการเผยแพร่ร่วมกันขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรม องค์การอนามัยแพนอเมริกัน (PAHO)/ องค์การอนามัยโลก (WHO) โครงการอาหารโลก (WFP) และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF)