รีเซต

หลุดขายว่อนเน็ต! ข้อมูลจากระบบจดจำใบหน้าของรัสเซียถูกขายในราคาเพียงหกพันบาท

หลุดขายว่อนเน็ต! ข้อมูลจากระบบจดจำใบหน้าของรัสเซียถูกขายในราคาเพียงหกพันบาท
TNN ช่อง16
13 พฤศจิกายน 2563 ( 17:33 )
52
หลุดขายว่อนเน็ต! ข้อมูลจากระบบจดจำใบหน้าของรัสเซียถูกขายในราคาเพียงหกพันบาท

จะเป็นอย่างไรถ้าระบบรักษาความปลอดภัยที่เราไว้วางใจหนักหนากลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เราไม่ปลอดภัยมากกว่าเดิม อย่างเช่นกรณีในรัสเซียที่มีการค้นพบว่าคนทั่วไปก็สามารถซื้อข้อมูลส่วนตัวของใครก็ได้จากระบบรักษาความปลอดภัยของตำรวจด้วยเงินเพียงแค่หกพันกว่าบาทเท่านั้น

นักกิจกรรมสังคมด้านสิทธิดิจิทัลในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย Anna Kuznetsova ค้นพบว่าเธอสามารถติดต่อขอซื้อข้อมูลส่วนตัวของเธอเองจากระบบจดจำใบหน้าของเมืองได้ในราคาแค่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณหกพันบาทเท่านั้น โดยเธอพบโฆษณาของบริการนี้ในแอปพลิเคชันแชต Telegram จากนั้นก็เพียงแค่ส่งรูปของตัวเองและโอนเงินไปให้ผู้ขาย เพียงแค่สองวันหลังจากนั้นเธอก็ได้รายงานที่แสดงการเคลื่อนไหวของเธอทั้งหมดภายในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งดึงข้อมูลมาจากระบบรักษาความปลอดภัยของตำรวจโดยตรงเสียด้วย


ซึ่งข้อมูลที่ได้ก็มาจากระบบจดจำใบหน้าจากกล้องกว่า 100,000 ตัวรอบเมืองที่ทางรัฐติดตั้งไว้ และถึงแม้จะไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายได้ข้อมูลนี้มาจากการเจาะระบบหรือการติดสินบนภายใน แต่นายตำรวจสองนายก็ได้ถูกสอบสวนอยู่ในขณะนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วน Kuznetsova มองไปไกลกว่านั้นด้วยการยื่นฟ้องให้มีการหยุดใช้งานโปรแกรมจดจำใบหน้านี้จนกว่าจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะเธอมองว่าระบบนี้กำลังทำให้คนจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย คนร้ายจะสามารถซื้อข้อมูลเพื่อทราบที่อยู่ของคุณ รู้ว่าคุณจะไปที่ไหน ซึ่งจะเป็นช่องทางให้เกิดเหตุร้ายได้ง่ายมาก

สำหรับระบบจดจำใบหน้านี้ หลาย ๆ เมืองก็ได้มีการถกเถียงถึงประเด็นความปลอดภัยของระบบและข้อมูลที่จะเกิดขึ้น จนนำไปสู่การห้ามใช้ในหลาย ๆ ประเทศ เช่นในสหรัฐอเมริกาในเมืองซานฟรานซิสโก, บอสตัน และล่าสุดพอร์ตแลนด์ รัฐเมน ไม่แน่ว่าหากการสอบสวนนี้ไม่คืบหน้าขึ้น มอสโกอาจจะเป็นเมืองถัดไปที่จะยกเลิกการใช้ระบบจดจำใบหน้าก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง