BEM กำไร 970 ล. +12% ดีกว่าคาด งวด 9 เดือนกำไร 2.6 พันล. เพิ่ม 43%

#BEM #ทันหุ้น - บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 969.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 12% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 862.79 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2566 มีกำไรสุทธิ 2,619.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.17 บาท เพิ่มขึ้น 43% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,833.00 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท

บล.ลิเบอร์เรเตอร์ คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/2566 ที่ 936 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 10.90 บาท บล.กรุงศรีพัฒนสิน คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/2566 ที่ 945 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 10.80 บาท บล.อินโนเวสท์เอกซ์ คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/2566 ที่ 956 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 9.50 บาท

สรุปสาระสำคัญในไตรมาสที่ 3 ปี 2566

ในไตรมาสนี้ ปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้า ยังคงมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากภาดเศรษฐกิจและภาดการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยได้รับปัจจัยบวกของการจัดกิจกรรมที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่สายสีน้ำเงินที่จุดเชื่อมต่อสถานีลาดพร้าว ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารในไตรมาสนี้เติบโตมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้โดยสาร New High อยู่ที่ 526,900 เที่ยว ในวันที่ 25 สิงหาคม 2566

กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท

กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มีจำนวน 970 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 107 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจซึ่งประกอบด้วย รายได้ค่าผ่านทาง รายได้ค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถ รวมทั้งรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ตามผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น

สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2566บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 2,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 787 ล้านบาท หรือร้อยละ 43 สาเหตุจากปริมาณรถและผู้โดยสารที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น ในส่วนของต้นทุนการให้บริการรวมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 7,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,080 ล้านบาท หรือร้อยละ 16 และต้นทุนทางการเงิน จำนวน 1,673 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 90 ล้านบาท หรือร้อยละ 6