รีเซต

สุพัฒนพงษ์ มั่นใจ ศก.ไทยปี 64 เป็นบวก ชี้ แผนวัคซีนตามเป้า ส่งออก ลงทุน ขยายตัว

สุพัฒนพงษ์ มั่นใจ ศก.ไทยปี 64 เป็นบวก ชี้ แผนวัคซีนตามเป้า ส่งออก ลงทุน ขยายตัว
มติชน
9 กันยายน 2564 ( 13:07 )
26
สุพัฒนพงษ์ มั่นใจ ศก.ไทยปี 64 เป็นบวก ชี้ แผนวัคซีนตามเป้า ส่งออก ลงทุน ขยายตัว

ข่าววันนี้ 9 กันยายน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เศรษฐกิจไทย ใครชี้ชะตา ผ่านทางออนไลน์ ว่า จากการแพร่ระบาดของเอไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ผ่านมาไทยเราสามารถจัดการได้ดีมาตลอด แต่เมื่อมีเชื้อเดลต้า ก็ทำให้เกิดการระบาดที่หนักขึ้น ซึ่งในตอนนี้เราสามารถปรับตัวได้ เมื่อ 1 กันยายน รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ต่างๆ แล้วประกอบกับไทยมีแผนในการฉีดวัคซีนที่ความชัดเจนมากขึ้น โดยคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายเข็มแรก 50 ล้านคน ในเดือนตุลาคมนี้ และตอนนี้เริ่มใกล้เข้าเป้าหมายมาก จึงมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผนแน่นอน

 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับมาโครงสร้างเศรษฐกิจไทย มีการพึ่งพาภาคบริการและท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ พอเกิดสถานการณ์โควิดเป็นระยะเวลานาน ก็ส่งผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ยังเติบโตอยู่ที่ 7.5% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ ถ้าทำการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และรักษาสถานภาพในอยู่ในระดับที่ดี เชื่อว่าจะการเติบโตเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3-4 ก็น่าจะเป็นบวก รวมทั้งเศรษฐกิจไทยปี 2565 ก็จะเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ

 

“เรายังมีการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้สูงมากเหมือนในอดีต ตอนนี้เป็นเหมือนกันทุกประเทศที่มีการเจริญเติบโบที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเราได้คาดการณ์เมื่อตอนต้นปีว่า เศรษฐกิจไทยปี 64 จะขยายได้ 3-4% แต่เมื่อมีการระบาดของโควิดสายพันธ์ใหม่ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการขายตัวอยู่บ้าง” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

 


นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า โดยปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คือ การบริโภคภาคเอกชน ที่ฟื้นตัว มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการโควิด ประกอบกับการส่งออกที่ขยายตัวได้เป็นตัวเลขสองหลัก หรือ เติบโตได้มากกว่า 10% รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยพยายามให้ออกมาครบเกือบ 100% ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณจากการลงทุนของภาคเอกชนด้วย ซึ่งปัจจุบัน พบว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่น และมีสัญญาณบวกมากกว่าปีที่ผ่านมา สะท้อนจากตัวเลขผู้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มียอดผู้ขอรับการส่งเสริมสูงถึง 400,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหลายเท่าตัว และหากไทยยังรักษาเสถียรภาพได้ คาดว่าปีนี้จะมีผู้ขอรับการส่งเสริมสูงถึง 600,000 ล้านบาทได้

 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือภาคประชาชนนั้น มั่นใจได้เลย เพราะรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือมาโดยตลอด ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ให้ผ่านความทุกข์ยากไปได้ ปัจจุบันก็ยังมีมาตรการที่ดำเนินอยู่ และเรื่องของเม็ดเงินนั้น ในตอนนนี้ จากในพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 5 แสนล้านบาท ยังเหลืออยู่ 4 แสนล้านบาท ยังเพียงพอต่อการดูแลและเยียวยา ในขณะที่ ด้านหลุมรายได้การท่องเที่ยว ยอมรับว่าต้องใช้เวลา กว่าคนจะกลับมาท่องเที่ยวทั้งโลก เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลก คงใช้เวลาหลายปี แต่เราไม่ย่อท้อ โดยภาครัฐมีนโยบายในการเปิดประเทศ ซึ่งเริ่มจากภูเก็ตซึ่งเริ่มเปิดมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา และปัจจุบันนักท่องเที่ยว เป็นหมื่นคน ส่วนยอดจองห้องกว่า 5 แสนห้องแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นต้นแบบในการเปิดประเทศด้วย

 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังสนับสนุน การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ การต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานที่ภาครัฐได้ลงทุนมาต่อเนื่องตลอดเวลา 6 ปี ซึ่งมีมากกว่า 160 โครงการ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ซึ่งพบว่า ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 40% จึงมองว่า อีอีซี จะเป็นฐานหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ในอนาคต และ ยังมีนโยบายที่สำคัญ คือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ดังนั้น ภาครัฐจึงเตรียมการ โดยมีเป้าหมายในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการเดินหน้าเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพด้วย

 

“เชื่อมั่นว่า หลังจากนี้ไปทิศทางของเศรษฐกิจไทย จะค่อยเติบโต จากความช่วยเหลือจากทุภาคส่วน ร่วมกันประคับประคอง และอยากให้ความมั่นใจ ว่า อันดับความน่าเช่อถือของไทยยังคงที่ ทั้งเสถียรภาพทางการเงิน ความพร้อมของธนาคารพาณิชย์ที่ยังเข้มแข็ง เหมือนก่อนมีโควิด-19 และหนี้สาธารณะก็ไม่ได้สูงจนเกินไป ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นใจได้ว่าเมื่อพ้นโควิดไปแล้วไทยยังคงมีความแข็งแกร่งแน่นอน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

 

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง