รีเซต

รำกลองยาวแห่ศพไปเผา ระยะทาง 3 กม. หลังลุงวัย 61 เสียก่อนบวช เข้าฝันญาติให้มารำ สั่งห้ามแต่งดำ

รำกลองยาวแห่ศพไปเผา ระยะทาง 3 กม. หลังลุงวัย 61 เสียก่อนบวช เข้าฝันญาติให้มารำ สั่งห้ามแต่งดำ
มติชน
6 ตุลาคม 2563 ( 12:45 )
338
รำกลองยาวแห่ศพไปเผา ระยะทาง 3 กม. หลังลุงวัย 61 เสียก่อนบวช เข้าฝันญาติให้มารำ สั่งห้ามแต่งดำ

เมื่อเวลา 09.39 น. วันที่ 6 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปากน้ำ ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีครอบครัวและญาติพี่น้องจัดพิธีเคลื่อนศพและขบวนแห่ศพนายชูศักดิ์ เทพเซ่งหลี อายุ 61 ปี ขึ้นรถบรรทุกออกจากบ้านพักที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ มุ่งหน้าไปยังวัดเขาพระนิ่ม หมู่ 1 ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ ระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อนำประกอบพิธีฌาปนกิจศพ โดยมีคณะมีกลองยาว พร้อมนางรำฟ้อนนำหน้าขบวนเสมือนงานอุปสมบท โดยมีชาวบ้านร่วมขบวนแห่กว่า 300 คน แต่งกายในชุดสีสดใส ไม่มีชุดขาวดำ

 

น.ส.สุมนพันธุ์ เทพเซ่งหลี อายุ 36 ปี บุตรสาวนายชูศักดิ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บิดามีความตั้งใจจะเข้าพิธีอุปสมบทในวันที่ 6 ตุลาคม หรือวันนี้ ที่วัดแห่งนี้ โดยได้แจ้งบอกกล่าวกับญาติๆ ให้มาร่วมงานอุปสมบทบ้างแล้ว กระทั่งได้ล้มป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเมื่อเย็นวันที่ 1 ตุลาคม 2563 หลังจากบิดาเสียชีวิตได้ไปเข้าฝันกับญาติๆ หลายคนว่าให้มาร่วมงานอุปสมบท และให้ไปร่วมรำหน้ากลองยาว โดยห้ามสวมใส่ชุดสีดำ ให้ใส่แบบสีสันไปร่วมงาน ซึ่งทางญาติและครอบครัวได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเป็นเวลา 5 คืน

 

น.ส.สุมนพันธุ์กล่าวว่า คืนสุดท้ายได้จัดพิธีทำขวัญนาคในงานบำเพ็ญกุศลศพ โดยนำกลองยาวมาตีฉลอง มีชาวบ้านสวมใส่เสื้อผ้าสีสันมาร่วมรำฉลองหน้าศพตามความประสงค์ของบิดา ซึ่งมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก และในวาระสุดท้ายได้จัดขบวนกลองยาวแห่ศพไปยังวัดที่บิดาตั้งใจจะอุปสมทบตามฤกษ์วันเวลาที่บิดากำหนดเดิมไว้ทุกประการ

 

รายงานข่าวแจ้งว่า มีชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ไม่ทราบข่าวการเสียชีวิตนายชูศักดิ์ แต่ตั้งใจมาร่วมงานอุปสมทบตามที่ได้รับแจ้งเชิญได้มาร่วมงานด้วย เมื่อมาถึงวัดกลับพบเป็นขบวนแห่ศพ ไม่ใช่ขบวนแห่นาคอุปสมบทถึงกับงง แต่เมื่อสอบถามจึงเข้าใจวัตถุประสงค์ของผู้เสียชีวิต

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง