จรวด Super Heavy ของ SpaceX หักงอขณะทดสอบแรงดัน อาจกระทบภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์

จรวด Super Heavy หมายเลข Booster 18 จรวดรุ่นใหม่ล่าสุดของ SpaceX ประสบเหตุยุบตัวและเสียหายอย่างรุนแรงระหว่างการทดสอบเบื้องต้น ณ ฐานปฏิบัติการ Starbase ในรัฐเท็กซัส เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความพร้อมของยานอวกาศรุ่นใหม่นี้ และอาจส่งผลกระทบต่อกำหนดการบินทดสอบและภารกิจสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจลงจอดบนดวงจันทร์ของ NASA
ความเสียหายร้ายแรงระหว่างการทดสอบก่อนขึ้นบิน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท SpaceX ได้นำจรวด Super Heavy หมายเลข Booster 18 ออกมายังแท่นทดสอบที่ Starbase ทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัส เพื่อเตรียมเริ่มการทดสอบรอบแรกก่อนการบินทดสอบครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม ภายในเช้าวันศุกร์ 21 พฤศจิกายน 2025 สัญญาณของความเสียหายร้ายแรงก็ได้ปรากฏขึ้นบนบูสเตอร์ลำใหม่นี้
SpaceX ยืนยันเกิดความผิดปกติระหว่างทดสอบระบบก๊าซ
บริษัท SpaceX ได้ออกมายืนยันว่าจรวด Super Heavy หมายเลข Booster 18 ประสบปัญหาความผิดปกติ ในระหว่างการทดสอบแรงดันระบบก๊าซ การดำเนินการนี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่จัดทำขึ้นก่อนการทดสอบความแข็งแกร่งของโครงสร้าง (Structural proof testing) โดยการทดสอบมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการออกแบบใหม่และความแข็งแกร่งโดยรวมของโครงสร้างยาน
ทางบริษัทชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในขณะเกิดเหตุนั้นยังไม่มีการเติมเชื้อเพลิงใดๆ บนยาน และยังไม่ได้ทำการติดตั้งเครื่องยนต์จรวดแร็พเตอร์ (Raptor Engines) ทั้งนี้ SpaceX ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการรักษาระยะห่างสำหรับบุคลากรระหว่างการทดสอบประเภทนี้อย่างเคร่งครัด ส่งผลให้ไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ความท้าทายใหม่ของภารกิจยาน Starship
จรวดหมายเลข Booster 18 นับเป็นรุ่นที่เข้ามารับช่วงต่อจากจรวดรุ่นก่อน ซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินติดต่อกันถึง 2 ครั้งในเดือนสิงหาคมและตุลาคมของปีนี้ หลังจากที่รุ่นก่อนหน้าต้องเผชิญกับปัญหามากมายมาตลอดทั้งปี
แม้ว่าจรวด Super Heavy หมายเลข Booster 18 มีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกับจรวดรุ่นก่อน แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบที่สำคัญหลายประการ เช่น จรวดรุ่นใหม่นี้มีความสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 5 ฟุต หรือราว 1.5 เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
วงแหวน Hot Stage มีการรวมวงแหวน สำหรับแยกตัวของจรวดขณะจุดระเบิดเครื่องยนต์ส่วนที่ 2 เข้ากับโครงสร้างของจรวดเพื่อให้การนำกลับมาใช้งานใหม่ทำได้ง่ายขึ้น
เครื่องยนต์จรวดและระบบควบคุมจรวดรุ่นใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการบินภายใต้พลังงานของเครื่องยนต์ Raptor 3 รุ่นอัปเกรด และจะติดตั้งครีบ (Grid fins) เพียง 3 ชิ้น สำหรับการควบคุมเสถียรในการร่อนจอดแทนที่จะเป็น 4 ชิ้นแบบในจรวดรุ่นก่อนหน้านี้ โดยครีบแต่ละชิ้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้นประมาณ 50%
ผลกระทบต่อภารกิจดวงจันทร์ของ NASA
ความผิดพลาดล่าสุดนี้อาจส่งผลให้โมเมนตัมที่ SpaceX เพิ่งได้รับกลับคืนมาจากการบินทดสอบยาน Starship ต้องชะลอตัวลง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่ยานจะได้รับโอกาสในการขึ้นบินจริง ได้สร้างคำถามเกี่ยวกับความพร้อมและความน่าเชื่อถือของยานอวกาศสำหรับลูกค้าคนสำคัญที่สุดของ SpaceX นั่นคือ NASA
โดยองค์การ NASA ได้ทำสัญญากับ SpaceX เพื่อใช้ Starship เป็นยานลงจอดบนดวงจันทร์สำหรับภารกิจ Artemis 3 ซึ่งเป็นภารกิจที่มีเป้าหมายเพื่อนำนักบินอวกาศกลับสู่พื้นผิวของดวงจันทร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1972 แม้ว่า NASA จะตั้งเป้าหมายภารกิจไว้ที่ปี 2027
รายงานล่าสุดชี้ว่ากำหนดการภายในของ SpaceX อาจเลื่อนออกไปเร็วที่สุดคือปี 2028 ก่อนที่จรวดรุ่นใหม่นี้ขัดข้องในระหว่างการทดสอบ นอกจากนี้ มีรายงานว่าทาง NASA เองก็เริ่มพิจารณาตัวเลือกยานลงจอดบนดวงจันทร์อื่น ๆ แล้ว เนื่องจากความล่าช้าในการพัฒนา Starship ของบริษัท SpaceX
สำหรับในตอนนี้งานด่วนของบริษัท SpaceX ต้องใช้เวลาในการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกติดังกล่าว และจะต้องกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดในการเติมเชื้อเพลิงให้จรวด Super Heavy หมายเลข Booster 18 โดยไม่เกิดการยุบตัวภายใต้แรงดันอีกครั้ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
