รีเซต

ญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยว หุ้นอะไรรับอานิสงส์

ญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยว หุ้นอะไรรับอานิสงส์
ทันหุ้น
27 พฤษภาคม 2565 ( 11:39 )
53
ญี่ปุ่นเปิดรับนักท่องเที่ยว หุ้นอะไรรับอานิสงส์

#AOT #ทันหุ้น - บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) มุมมองเป็นบวกมากจากการญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.65 โดยให้ไทยเป็นกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ รวมถึงมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงก่อนระบาดโควิด ในปี 2562 มีคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นอันดับ 6 ราว 2 ล้านคน (รองจาก จีน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สหรัฐ) สำหรับหุ้นที่จะ outperform จากข่าวดังกล่าวมากสุด ได้แก่ AOT, AAV, GFPT

 

( + ) AOT จะช่วยให้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศฟื้นตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวมาก ทั้งนี้ ในช่วงก่อนที่มีการระบาดโควิด-19 AOT จะมีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเที่ยวบินจากญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 4 รองจาก จีน, อินเดีย และเกาหลีใต้ และคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินญี่ปุ่นราว 5% จากรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน(Aeronautical Revenue) ดังนั้น จากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางในหลายประเทศทั่วโลกส่งผลให้ฝ่ายวจัยประเมินผลการดำเนินงานของ AOT จะขาดทุนลดลงต่อเนื่องใน 2HFY65E (เม.ย.-ก.ย.22) โดยเราประเมินผลการดาเนินงานปกติปี FY65E จะขาดทุนลดลงเป็น -1.0 หมื่นล้านบาท ดีขึ้นจากปี FY64 ที่ขาดทุน -1.5 หมื่นล้านบาท และปี FY66 (ต.ค.22-ก.ย.23) จะพลิกเป็นกำไรได้ 6.8 พันล้านบาท โดยยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท อิง DCF (WACC = 7%, terminal growth = 3.5%)

( + ) AAV จะได้ประโยชน์จากแผนที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย จะมีการเปิดเที่ยวบินไปเมืองฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วง Q3/65E ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดสายการบินที่มีเที่ยวบินไปญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นที่นิยมของคนไทยที่ต้องการไปท่องเที่ยว ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังประเมินผลการดำเนินงานปกติปี 2565E จะขาดทุน -4.5 พันล้านบาท ดีขึ้น YoY โดย Q1/65 ขาดทุน -2.3 พันล้านบาท และจะดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยฝ่ายวิจัยยังประเมินผู้โดยสารปี 2565 ที่ 9 ล้านคน +207% YoY (Q1/65 อยู่ที่ 1.5 ล้านคน) ซึ่ง AAV จะมีการเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศใน Q2/65E เพิ่มขึ้นเป็น 8 ประเทศ จาก Q1/65 ที่ 4 ประเทศ นอกจากนั้น ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปี 2566 ขึ้นจากเดิม 25% เป็น 903 ล้านบาท ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท อิง 2565E PBV ที่ 2.5 เท่า (+2.5SD)

( + ) GFPT ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผู้ส่งออกไก่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็น destination ของการส่งออกไก่ของประเทศไทย โดยประเทศไทยส่งออกไก่ไปยังประเทศญี่ปุ่นคิดเป็น 48% ของการส่งออกทั้งหมด ตามมาด้วย EU+UK 28% ขณะที่ GFPT มีรายได้จากการส่งออกไปญี่ปุ่นใน FY 2021 11% ของรายได้รวม โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นคิดเป็น 48% ของรายได้ export ของบริษัท ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าการเปิดประเทศของญี่ปุ่นจะทำให้ความต้องการบริโภคไก่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งปริมาณและราคาขายในประเทศญี่ปุ่น แนะนำ "ซื้อ" GFPT ที่ราคาเป้าหมาย 17.80 บาท อิง 2565E PER ที่ 16.3 เท่า (+1SD above 5-year average PER) และคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565E อยู่ที่ 1,365 ล้านบาท (+552% YoY

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง