ในวัดก็ไม่เว้น! หนุ่มคลั่ง อำมหิต คว้าค้อนทุบเฒ่าดับ พยานเล่านาทีถูกขู่
สุดอำมหิต หนุ่มเมายา คลุ้มคลั่ง-อาละวาด คว้าค้อนทุบ ลุงหิ้น วัย 70 ปี เสียชีวิตคาวัดในพื้นที่จ.ตรัง พยานเผยนาทีถูกขู่ "เดี๋ยวจะทุบให้ตายเหมือนลุงหิ้น"
วันที่ 16 ก.ค. ร.ต.อ.มนตรี สงคง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.40 น.ของวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกทำร้ายร่างกายภายในวัดเหรียงท่าไทร ม.2 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด, พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน), ฝ่ายสืบสวน, กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยยอด และอาสามูลนิธิสว่างภักดีตรัง
ที่เกิดเหตุพบศพ นายจำเนียร หรือ ลุงหิ้น พรหมอินทร์ อายุ 70 ปี สภาพมีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย 1 แผล, คางหัก ข้อศอกซ้าย 1 แผล นุ่งผ้าขาวม้า ไม่สวมเสื้อ นอนหงายเสียชีวิต จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
ต่อมาได้รับแจ้งว่าพบชายมีอาการเมาอาละวาด คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายจำเนียร บริเวณตลาดฉุ้น อ.บางดี ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมทราบชื่อคือ นายเอกสิทธิ์ หรือ แบงก์ เกลาเกลี้ยง อายุ 30 ปี
จากการสอบถาม นายเอกสิทธิ์ ให้การรับว่า เป็นคนใช้ค้อนทุบทำร้ายนายจำเนียรจริง และนำเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านร้างใกล้ตลาด ภายในบ้านพบเพียงหัวค้อนเหล็กในกองฟืน ส่วนด้ามค้อนเป็นไม้ถูกไฟเผาทำลายไปหมดแล้ว
ด้าน พระธีระ สันเกียรติคุณ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น.ของคืนวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังจำวัดอยู่ที่กุฏิ เห็นชายวัยรุ่นเดินอยู่ในความมืด ทราบชื่อต่อมานายเอกสิทธิ์ ก่อนได้ยินเสียงนายจำเนียร ถามนายเอกสิทธิ์ว่า "มืด ๆ ค่ำ ๆ เข้ามาในวัดทำไม" จากนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้ตายร้องโอ๊ย ๆ 3 ครั้ง และเงียบไป แต่อาตมาไม่กล้าออกไปดู จนตอนเช้าได้ให้พระลูกวัดไปดูก็พบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ นายกนกเทพ เดชภักดี พยาน ให้การว่า ตนเห็นนายเอกสิทธิ์มีอาการเมาอาละวาดอยู่บริเวณตลาดฉุ้น ตนจึงได้เข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกพูดข่มขู่ว่า "เดี๋ยวจะทุบให้ตายเหมือนลุงหิ้นที่วัดเหรียง" ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จนตนมาทราบภายหลังว่านายจำเนียรถูกทำร้ายเสียชีวิตในวัดแล้ว โดยปกติผู้ต้องหามีอาการเมายาเสพติดและอาละวาดทำร้ายคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน
พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับผู้ตายได้อาศัยอยู่ในวัดมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยช่วยทำความสะอาดภายในบริเวณวัดและช่วยพระสงฆ์ทำธุระต่าง ๆ ในวัด จากการสอบสวนพยานทั้งพระในวัดและพยานแวดล้อมส่วนใหญ่พบเห็นนายเอกสิทธิ์ เดินไปในวัดช่วงเวลาเกิดเหตุ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนมีอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและทำร้ายคนอื่น จนคนที่บ้านทนไม่ไหวต้องย้ายออกเพราะกลัวถูกทำร้าย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวก็ยังมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด และจากการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วงจากการเสพเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ด้วย เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เตรียมฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป