"ฝีดาษลิง" หากป่วยเริ่มต้นจะมีอาการเหล่านี้? ก่อนมีผื่น-ตุ่มขึ้นตามร่างกาย
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เปิดเผยกับสำนักข่าว TNN ช่อง 16 ถึง โรคฝีดาษลิง ว่า ข้อมูลทางการแพทย์ของโรค มีอาการทางผิวหนังและมีผื่นขึ้นตามเยื่อบุต่างๆของร่างกาย รวมถึงที่อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก หรือบริเวณด้านในของทวารหนัก ส่วนอาการนำ คือ ไข้ ผื่นต่างๆ จะมาหลังเป็นไข้ มีต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นขึ้นตามร่างกาย ตุ่ม หนอง ซึ่งหากรวม 3 องค์ประกอบนี้ ก็สงสัยได้แล้วว่าอาจ เข้าข่ายของโรคฝีดาษลิง
ทั้งนี้ ผื่นของโรคฝีดาษลิง จะมีลักษณะเฉพาะ คือจะเป็นผื่นอยู่ในระยะเดียวกันใกล้เคียงกัน เช่น หากเป็นตุ่มแดงก็จะเป็นตุ่มแดงเหมือนกัน หากเป็นตุ่มหนองก็จะเป็นตุ่มหนองเหมือนกัน โดยจะมีรอยบุ๋มอยู่ตรงกลางตุ่ม จะไม่เหมือนโรคอีสุกอีใสโดย พบว่า คนที่เป็นตุ่มบริเวณจุดที่มองไม่เห็น หรือบริเวณเยื่อบุต่างๆ จะมีความเจ็บปวดพอสมควร และจะสังเกตเห็นจากอาการเจ็บเหล่านั้นได้
สำหรับผื่น ตุ่ม หนองต่างๆ จะขึ้นตามเยื้อบุอ่อนของร่างกาย เช่น ที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ก็สามารถขึ้นได้ เบื้องต้นที่มีการรายงานออกมา หากเป็นผู้ติดเชื้อแล้วมีกิจกรรมทางเพศ หรือจากการสัมผัสใกล้ชิดกันสามารถที่จะแพร่โรคต่อได้ ไม่ว่าจะมาจากสารคัดหลั่งของแผลเอง หรือจากสารคัดหลั่งน้ำที่ออกมาจากร่างกาย
เมื่อก่อนมีข้อสงสัยกันว่า ตกลงเชื้อของโรคฝีดาษลิง มีอยู่ในสารคัดหลั่งต่างๆ หรือมีอยู่ในน้ำสเปิร์มหรือไม่ จากข้อมูลระยะหลังก็เริ่มพบว่า มีเชื้ออยู่เหมือนกันในสารคัดหลั่งทางเพศ แต่พบน้อยกว่าสารคัดหลั่งทั่วไป แต่ก็สามารถติดได้จากการมีกิจกรรมทางเพศคือการสัมผัสใกล้ชิด น่าจะติดได้
สำหรับการเฝ้าระวังของโรคฝีดาษลิงขณะนี้ทุกโรงพยาบาล รวมถึงสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์เอง ได้ถูกสั่งการให้เฝ้าระวัง ในกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัยหากพบขอให้ส่งตรวจตัวอย่างเชื้อ ทันที
ขณะที่ความรุนแรงของโรคฝีดาษลิง พญ.มิ่งขวัญ ระบุว่า ต้องดูจากสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยรายนั้นด้วย ซึ่งหากคนที่แข็งแรงติดเชื้อโรคฝีดาษลิง รักษาตามอาการสามารถที่จะหายได้เป็นปกติ ในส่วนของผื่นที่ขึ้นตามร่างกาย เมื่อใกล้หายก็จะเป็นสะเก็ดแผล บางรายก็อาจจะเป็นแผลเป็นได้ หากดูแลแผลไม่ดี
ส่วนตอนนี้ที่ดูว่าโรคฝีดาษลิงน่ากลัวกว่าโรคอื่นนั้น เนื่องจากอาจจะยังไม่เข้าใจกระบวนการของโรคเท่าที่ควร เพราะโรคดังกล่าวหายไปนานแล้ว และเพิ่งกลับมาพบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงยาในการรักษาโรคฝีดาษลิง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการวิจัยทดลองถึงประสิทธิผล แล้วยังไม่ได้ถูกการรับรองอย่างเป็นทางการ แล้ววัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง ที่ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนเฉพาะ มีเพียงวัคซีนโรคฝีดาษที่เก็บไว้นานแล้ว หากจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้ ทางบุคลากรทางสาธารณสุขได้มีการเตรียมพร้อมในการที่จะฉีดวัคซีนนี้แล้ว
ภาพจาก AFP