รีเซต

อัปเดต! แนวทางรักษา "โควิด-19" ปรับให้ยาต้านไวรัส-เงื่อนไขให้ LAAB

อัปเดต! แนวทางรักษา "โควิด-19" ปรับให้ยาต้านไวรัส-เงื่อนไขให้ LAAB
TNN ช่อง16
18 เมษายน 2566 ( 20:07 )
165

อัปเดตล่าสุด แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง


กรมการแพทย์ เปิดแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566 โดยความร่วมมือของคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ และผู้แทนทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้างานในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด ได้ทบทวนและปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วย ตามข้อมูลวิชาการในประเทศ และต่างประเทศ


การปรบแนวทางเวชปฏิบัติ ฉบบนี้ มีประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

1. ปรับการให้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง

2. ปรับเงื่อนไขของการให้ Long-acting Antibody (LAAB)


ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อระบบทางเดนหายใจ คํานยามเป็นผู้ป่วยสงสัยเข้าได้กับ(Suspected case)

1 ผู้ที่มีอาการเข้าได้กับอาการตามเกณฑ์ทางคลินิก หรือเกณฑ์ทางระบาดวิทยา(ตามประกาศของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค) หรือ

2 ผู้ป่วยที่แพทย์ผู้ป่วยตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019


ผลการตรวจหา SARS-CoV-2


-ตรวจพบเชื้อSARS-CoV-2

ให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือ รับไว้ในโรงพยาบาล พิจารณาตามอาการของผู้ปวยโดยคํานึงถึงหลักการป้องกนการแพร่เชื้อตามคําแนะนําที่เกี่ยวข้อง


-กรณีตรวจไม่พบเชื้อSARS-CoV-2

1) พิจารณาดูแลรกษาตามความเหมาะสม

2) ให้ปฏิบัติตาม DMH อย่างเคร่งครัด ประมาณ 5 วัน และให้ระมัดระวังการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

3) ถ้ามีอาการรนแรงให้พิจารณารับไว้ในโรงพยาบาลเพื่อการตรวจ วินิจฉัย และรกษาตามความเหมาะสม พิจารณาปฏิบัติตาม droplet precautions ระหว่างรอผลการวินิจฉัยสุดท้าย

4) กรณีอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง พิจารณาส่งตรวจ ATK ซ้ำรวมทั้งสาเหตุอื่นตามความเหมาะสม(ตามคํานิยามของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค)


คำนิยามผู้ป่วยสงสัย (Suspected case) ตามการเฝ้าระวังและสอบสวนโรค


การเฝ้าระวังโรคเฉพาะราย (Case definition for surveillance)

เกณฑ์ทางคลินิก (Clinical criteria) ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

1. มีอาการอย่างน้อย 2 อาการ ดังต่อไปนี้

1) ไข้ 

2) ไอ 

3) มีน้ํามูก/คัดจมูก 

4) เจ็บคอ 

5) มีเสมหะ 


2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งในข้อ (1) ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ได้แก่

1) ถ่ายเหลว 

2) ปวดกล้ามเนื้อ 

3) ปวดศีรษะ 

4) คลื่นไส้/อาเจียน 

5) ท้องเสีย 

6) อ่อนเพลีย 

7) มีผื่นขึ้น หรือ


3. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

1) หอบเหนื่อย 

2) หายใจลาบาก 

3) มีความผิดปกติของการได้รับกลิ่น/ได้รับรส 

4) สับสนหรือระดับความรู้สึกตัวลดลง หรือ


4. มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่

1) มีอาการปอดอักเสบ/ภาพถ่ายรังสีทรวงอกพบมีปอดอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุหรือหาสาเหตุไม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง หรือ

2) มีภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันรุนแรง (acute respiratory distress syndrome: ARDS)

หรือ


5. แพทย์ผู้ตรวจรกษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

6. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย COVID-19



คําแนะนําการให้ยาต้านไวรัส


ให้เลือก 1 ชนิด ตามลําดับคือ nirmatrelvir/ritonavir หรือ remdesivir หรือ molnupiravir หรือ tixagevimab/ cilgavimab (Long-acting Antibody : LAAB) โดยเริ่มพิจารณาให้ยานับจากวันที่เริ่มมีอาการและให้ขนาดยา/จํานวนดังตารางที่ 1



 




อ่านรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=181&fbclid=IwAR3OMHCnsM_-XTEOPto_GyFrlEx-gUyc6AnllHZU2D143hBMyxulPJnxUfo




ที่มา กรมการแพทย์

ภาพจาก AFP / กรมการแพทย์

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง