‘ดอน’ คุยรมว.เมียนมา ย้ำร่วมมือเข้มข้นรอบด้านต้านโควิด
มติชน
21 ธันวาคม 2563 ( 16:28 )
86
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลง ถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในการบริหารจัดการแรงงานและกลุ่มเสี่ยงในบริบทของโควิด-19 ว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกับนายจ่อ ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศเมียนมา โดยทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญที่จะต้องร่วมมือกันอย่างเข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันแนวชายแดน สกัดกั้นขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเมียนมาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
นายธานีกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายรับทราบถึงกระบวนการนายหน้านำเข้าแรงงานเมียนมาที่ผิดกฎหมาย และจะต้องร่วมมือกันอย่างเคร่งครัดในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการรับแรงงานเมียนมาเพิ่มเติม จะต้องปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (เอ็มโอยู) ที่มีร่วมกัน ขณะที่ฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าการระบาดที่เกิดขึ้นในเมียนมาที่ผ่านมา มีต้นเหตุมาจากการแพร่ระบาดในพื้นที่รัฐยะไข่
นายธานีกล่าวว่า ไทยและเมียนมากำลังร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและเข้มข้นเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ กระทรวงการต่างประเทศมีการติดต่อประสานงานที่ใกล้ชิดกับทางการเมียนมา มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยประสานงานความร่วมมือระหว่างส่วนราชการต่างๆ ของไทยกับส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเพื่อนบ้านเมื่อมีเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างดี มีการหารือกันในทุกระดับ ทั้งนี้ไทยยังไม่มีนโยบายนำแรงงานต่างด้าวกลับเข้ามาทำงานในไทยโดยคำนึงทั้งไทยและประเทศต้นทางของแรงงานต่างด้าวบางประเทศยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดนได้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดนเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการระบาดทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งบังคับใช้มาตรการคัดกรองและลงโทษผู้ลักลอบข้ามแดนที่เข้มงวดมากขึ้น และจะมีการอำนวยความสะดวกการเดินทางกลับไทยของคนไทยในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากเมียนมาอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยพยายามกระชับความร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมาให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้แรงงานที่อยู่ในเมียนมาและต้องการเดินทางกลับไทยให้สามารถเดินทางกลับผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมายแทนการลักลอบข้ามแดน เพื่อให้สามารถคัดกรองโรคได้ถี่ถ้วนมากขึ้น
นายธานีกล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งเป็นความท้าทายร่วมกันของนานาชาติ และขอให้เชื่อมั่นว่าไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะเดินหน้ากระชับความร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะต่างตระหนักดีว่าไม่มีประเทศใดปลอดภัยได้อย่างแท้จริงหากประเทศเพื่อนบ้านยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดอยู่ ประเทศไทยตระหนักถึงบทบาทสำคัญของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านในการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลแรงงานเหล่านี้ในด้านสาธารณสุขในระหว่างที่พำนักทำงานอยู่ในประเทศไทย รัฐบาลไทยขอย้ำว่าเราดูแลแรงงานต่างด้าวเทียบเท่ากับการดูแลแรงงานไทย ทั้งเรื่องค่าจ้าง ชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงการดูแลรักษาโควิด-19