เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (5 เม.ย.2565)
ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (4 เม.ย.2565)
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (5 เม.ย.2565)
รัสเซีย ร้องนาโตปรับนโยบายที่ไม่เป็นมิตร
ทางการรัสเซียเผย นาโตต้องปรับเปลี่ยนนโยบายที่ผิดพลาดต่อรัสเซีย เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตยูเครน
ดมิทรี โนวิคอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย เปิดเผยต่อ CGTN ว่า การเปลี่ยนนโยบายของนาโตต่อรัสเซีย เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อแก้ไขวิกฤตรัสเซียกับยูเครน
โนวิคอฟ กล่าวต่อไปว่า เหตุผลที่ว่าทำไมสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ถึงไม่ยอมเปลี่ยนนโยบายที่เป็นศัตรูต่อรัสเซียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เพราะได้ประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจจากการทำให้รัสเซียเป็นศัตรู อันเป็นผลของการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย
นาโตไม่ได้มลายหายไปพร้อมกับสงครามเย็น แต่กลับเพิ่มความแข็งแกร่ง ด้วยการขยายสมาชิก ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวง และปัญหาต่อความมั่นคงของโลกกับภูมิภาค
โนวิคอฟ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนชาติพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลหลายชาติ รวมถึงลิเบีย อิรัก และอัฟกานิสถาน อีกทั้งยังมีแผนดำเนินการต่อซีเรีย แต่เนื่องจากรัฐบาลอันชอบธรรมของซีเรีย ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ทำให้ซีเรียรอดพ้นจากชะตากรรมแบบที่เกิดขึ้นกับลิเบีย อิรัก และอัฟกานิสถาน
อย่างไรก็ตาม โนวิคอฟ ระบุว่า รัสเซียมีเป้าหมายต่าง ๆ สำหรับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน นอกเหนือจากการปกป้องความมั่นคงแล้ว ยังขัดขวางนาโต ไม่ให้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกในทุกวันนี้ ดังนั้น นาโตต้องเปลี่ยนนโยบายปัจจุบันทั้งวางกำลังพลและขยายสมาชิก เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ผู้นำยูเครนจ่อปรายศรัยต่อ UN
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน จะขึ้นกล่าวปราศรัยต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ในวันอังคารนี้ (5 เมษายน) ผ่านทางวิดีโอ ลิงก์ คาดว่า จะเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ หลังรัสเซียโจมตีเมืองบูชาอย่างหนัก จนทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
การปราศรัยครั้งนี้ของประธานาธิบดีเซเลนสกี เกิดขึ้นหลังเพิ่งเยือนเมืองบูชาไปเมื่อวันจันทร์ (4 เมษายน) เขาได้พบปะกับประชาชน พร้อมให้คำมั่นว่า รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้นในยูเครน
ขณะที่ รัสเซียปฏิเสธความรับผิดชอบ พร้อมระบุว่า ภาพความเสียหายดังกล่าวเป็น “การจัดฉาก” ของยูเครน และการเสียชีวิตของชาวยูเครน เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่ไปแล้ว
ด้านนานาชาติต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียในเรื่องนี้ พร้อมเรียกร้องให้ยกระดับการลงโทษต่อรัสเซียให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ คณะผู้แทนถาวรสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็น ที่ดำรงตำแหน่งประธาน UNSC ประจำเดือนเมษายน เปิดเผยผ่านทาง Twitter ระบุว่า UNSC จะทำการตรวจสอบว่า ประเด็นอาชญากรรมสงครามของรัสเซียที่ยูเครนกล่าวอ้างนั้น เป็นจริงหรือไม่
รัสเซีย เตรียมเผยหลักฐาน เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุในเมืองบูชา
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและทูตรัสเซียประจำ UN ระบุ รัสเซียจะแสดง “หลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริง” เพื่อยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้ก่อเหตุในเมืองบูชา และปฏิเสธว่า ประธานาธิบดี “ปูติน” ของรัสเซีย ไม่ได้ก่ออาชญากรรมสงคราม และสหรัฐฯ ควรหันกลับไปดูตัวเองว่าทำสิ่งใดไว้ในอิรักและลิเบีย
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย แถลงข่าวที่กรุงมอสโกเมื่อวานนี้ (4 เมษายน) ปฏิเสธคำกล่าวหาของประเทศตะวันตกที่ว่า ทหารรัสเซียสังหารพลเรือนในเมืองทางเหนือของยูเครน เป็นคำกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง และรัสเซียจะเปิดโปงข่าวเท็จเหล่านั้น
การแถลงของลาฟรอฟ เป็นการตอบโต้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4 เมษายน) ที่กล่าวหาประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า ก่ออาชญากรรมสงคราม และยังเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้นำรัสเซีย
รัสเซียได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นชัดเจนตลอดมา ต่อข้อกล่าวหาใด ๆ ที่ระบุว่า รัสเซียเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเรือนในยูเครน รวมไปถึงในเมืองบูชา รัสเซียโต้กลับว่า เหตุในเมืองบูชานั้น เป็นการจัดฉากโดยยูเครนเอง เพื่อป้ายสีรัสเซียให้มัวหมอง
ลาฟรอฟ กล่าวต่อไปว่า ประเทศตะวันตกเอง ควรหันกลับไปพิจารณาการกระทำของตัวเองในอิรักและลิเบีย
ลาฟรอฟ เปิดเผยด้วยว่า คณะตัวแทนทางการทูตของรัสเซียประจำสหประชาชาติ หรือ UN จะแถลงข่าวที่นิวยอร์ก สำนักงานใหญ่ของยูเอ็น เพื่อเปิดเผยรายละเอียดให้มากที่สุด และแสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมืองบูชาของยูเครน
ขณะเดียวกัน ทางด้าน วาซิลี เนเบนเซีย ทูตรัสเซียประจำ UN กล่าวเมื่อวานนี้ (4 เมษายน) เช่นกันว่า รัสเซียจะแสดง “หลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริง” ต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า ทหารรัสเซียไม่ได้สังหารพลเรือนในยูเครน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุในเมืองบูชา
เนเบนเซีย ยืนยันว่า รัสเซียมีหลักฐานที่เป็นข้อเท็จจริงอยู่ในมือแล้ว ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า รัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับเหตุในเมืองบูชาและไม่ได้สังหารชีวิตพลเรือนในยูเครน รัสเซียตั้งใจจะแสดงหลักฐานเหล่านั้นต่อคณะมนตรีความมั่นยูเอ็น โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อมิให้ประชาคมโลกถูกชักนำให้เข้าใจผิด ด้วยคำพูดของยูเครนและเหล่าประเทศตะวันตกที่หนุนหลังยูเครน
ข้อมูล : TNN World
ภาพ : Reuters
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี