รีเซต

หมอตี๋ ยกสมุทรสาครโมเดลเยี่ยม ส่ง 28 ชีวิตกลับไปใช้ชีวิต-ทำงานปกติ

หมอตี๋ ยกสมุทรสาครโมเดลเยี่ยม ส่ง 28 ชีวิตกลับไปใช้ชีวิต-ทำงานปกติ
ข่าวสด
13 มกราคม 2564 ( 16:29 )
86

หมอตี๋ ตรวจเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก ยกสมุทรสาครโมเดลเยี่ยม เดินหน้าตรวจเชิงรุกค้นหา โควิด ซุกซ่อนในชุมชน ส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 28 คน รักษาหายแล้ว กลับออกไปใช้ชีวิต-ทำงานได้ตามปกติ

 

วันที่ 13 ม.ค.2564 ที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผวจ.สมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมตรวจเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 2 และมอบหนังสือรับรองกักตัว เพื่อยืนยันว่าได้รับการกักตัวควบคุมโรคโควิดครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ก่อนส่งตัวแรงงานข้ามชาติ 28 คนกลับออกไปใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ ในโอกาสนี้ พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโกรกกราก ยังมาประพรมน้ำมนต์สร้างขวัญและกำลังใจให้แรงงานข้ามชาติทุกคนด้วย โดยมีนายจ้างจากสถานประกอบการต่างๆมารับเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อในร่างกายซ้ำอีกครั้ง แล้วส่งเข้าหอพักกักตัวต่ออีก 14 วัน

 

 

นายสาธิต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าจังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอก 2 หนักกว่าที่อื่น ตั้งแต่เริ่มเป็นศูนย์กลางในการระบาดรอบใหม่ มีผู้ติดเชื้อทั้งที่เป็นแรงงานต่างด้าวและคนไทย ดังนั้นจังหวัดสมุทรสาครจึงนับเป็นโมเดลที่สมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงการวางระบบการตรวจหาเชื้อทั้งเชิงรุกและในรพ. การแยกกลุ่มผู้ติดเชื้อ การเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงในระดับต่างๆ การนำเข้าสู่กระบวนการรักษา การจัดตั้งรพ.สนาม การเตรียมความพร้อมของรพ.หลัก และสุดท้ายคือการดูแลรักษาจนส่งตัวกลับบ้านได้

 

https://youtu.be/meGvlFvTSKA

 

จากสถานการณ์นี้ ทำให้เห็นผลสัมฤทธิ์ของการทำงานร่วมกัน ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งบุคลากรทางการแพทย์จากทุกจังหวัด บุคลากรของทางจังหวัด ทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งก็ถือว่าทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอัตราเพิ่มที่ลดลงด้วย และระบบทั้งหมดมีการจัดการอย่างเป็นระบบแล้ว เพราะฉะนั้นในทุกขั้นตอนตั้งแต่การตรวจเชิงรุกจนเข้าสู่กระบวนการแอดมิท หรือบางคนที่ไม่ต้องแอดมิทก็มาอยู่ในรพ.สนาม และดำเนินการตามขั้นตอนของระบบสาธารณสุข ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นระบบที่ครบถ้วนของดูแลทั้งระบบแล้ว ฉะนั้นถ้าเราสามารถดูแลอาการติดเชื้อหรือโรคระบาดได้ตามนี้ ก็จะสามารถสอบสวนโรคแล้วก็จัดการกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อได้ลดลง รวมทั้งกรณีที่มีการติดเชื้อไปยังแรงงานต่างด้าวที่มีจำนวนมาก”

 

 

นายสาธิต กล่าวต่อว่า ส่วนของระบบการจัดการของทางสถานประกอบการก็จะช่วยได้เยอะมาก ทั้งนี้เรายังคงต้องตรวจเชิงรุกให้มากที่สุด เพราะว่ายังไม่แน่ว่าจะมีผู้ติดเชื้อที่จะไปซ่อนอยู่ในชุมชนหรือในโรงงานมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการค้นหาเชิงรุกต่อไป เรายังคงต้องทำงานแบบนี้เดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อชะลอการติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุดขณะที่รอวัคซีน ผมมั่นใจว่าทีมของประเทศไทยขณะนี้ในทุกจังหวัดสามารถจัดการในกรณีที่มีการระบาดได้ แม้ว่าอาจจะมีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้นได้อีก

 

 

ด้านน.ส.อิพิวเว ตัวแทนแรงงานข้ามชาติ เปิดใจว่า หลังจากที่ทราบว่าติดเชื้อโควิด โรงงานก็ส่งตัวมาเข้ารับการรักษาและกักกันตัวอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้จนครบกำหนดหายเป็นปกติดีแล้ว ซึ่งได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ อยากจะฝากบอกแรงงานข้ามชาติทุกคนว่า หากเรารู้ว่ามีอาการผิดปกติ สงสัยจะติดเชื้อโควิดต้องรีบไปให้แพทย์ตรวจจะได้รักษาได้ สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ปกปิดความจริง และไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่นเมื่อรักษาหายแล้วก็จะได้กลับไปทำงานได้ตามปกติ อีกอย่างคือเราต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการป้องกันตนเอง สวมแมส ล้างมือ และถ้าติดโควิดก็ต้องไม่ไปแพร่เชื้อให้ใครต้องเปิดเผยข้อมูล แล้วเข้าสู่กระบวนการรักษา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง