รีเซต

สทป.มอบหุ่นยนต์ "D–EMPIR CARE" ให้ สธ. สนับสนุนทีมแพทย์​ รพ.บุษราคัม

สทป.มอบหุ่นยนต์ "D–EMPIR CARE" ให้ สธ. สนับสนุนทีมแพทย์​ รพ.บุษราคัม
ข่าวสด
16 มิถุนายน 2564 ( 07:36 )
104
สทป.มอบหุ่นยนต์ "D–EMPIR CARE" ให้ สธ. สนับสนุนทีมแพทย์​ รพ.บุษราคัม

 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นวงกว้างทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

 

 

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.)​ จึงเล็งเห็นขีดความสามารถหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD Robot) ของ สทป. ที่ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ติดตั้งบนตัวหุ่นยนต์ (payload) เพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามความเหมาะสมในภารกิจต่าง ๆ

 

 

 

 

สทป. จึงดัดแปลงหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD Robot) รุ่น D-EMPIR มาเป็นหุ่นยนต์สำหรับใช้ปฏิบัติงานในภารกิจโรงพยาบาลสนาม เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์สามารถควบคุมแบบไร้สายระยะไกล บรรทุกยา อาหาร หรือสิ่งของเพื่อส่งให้ผู้ป่วย

 

 

พร้อมติดกล้อง และไมโครโฟน รวมถึงจอมอนิเตอร์เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลากรทางแพทย์ และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์

 

 

ทางกระทรวงกลาโหม โดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จึงจัดพิธีส่งมอบหุ่นยนต์ให้บริการทางการแพทย์ (D–EMPIR CARE)

 

 

โดยพล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พล.อ.อ.ดร.ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมเป็นประธานส่งมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบในการสนับสนุนภารกิจของทีมแพทย์โรงพยาบาลสนาม ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

 

 

 

 

พล.อ.อ.ดร.ปรีชา กล่าวว่า สถาน​การณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่จะสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดมาจากหุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR” ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด นำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์

 

 

 

 

พล.อ.พอพล กล่าวว่า สทป. ได้พัฒนาต่อยอดจากหุ่นยนต์ทางการทหารไปสู่หุ่นยนต์เพื่องานทางสาธารณสุข​ ถือได้ว่าเป็นการนำงานวิจัยทางการทหารมาสร้างประโยชน์เป็นเทคโนโลยีสองทาง (Dual use) ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับภาคพลเรือน

 

 

หุ่นยนต์ รุ่น “D-EMPIR CARE” สามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องสัมผัสและรักษาผู้ป่วยได้

 

 

 

 

ดังนั้น กระทรวงกลาโหม โดย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จึงขอมอบหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE จำนวน 3 ระบบ แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้งานในภารกิจโรงพยาบาลสนาม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE นี้จะเป็นประโยชน์และช่วยลดความเสี่ยง รวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และบุคลากรได้อย่างสูงสุด

 

 

ความมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาของ สทป. ในการดัดแปลงจากหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่น D-EMPIR มาเป็นหุ่นยนต์ รุ่น D-EMPIR CARE ให้เป็นไปตามมาตรฐานการออกแบบ วิจัยและพัฒนา ผลิตและทดสอบที่เป็นสากลในครั้งนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพความพร้อมในการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศและสร้างความปลอดภัยให้กับ สังคมโดยรวม เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม (Value-Based Economy) สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย

 

 

 

 

สำหรับหุ่นยนต์ที่ออกแบบใหม่ ตั้งชื่อว่า “D-EMPIR CARE” เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและความรู้สึกเป็นมิตรต่อการใช้งาน “user friendly” โดยหุ่นยนต์ D-EMPIR CARE สามารถสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสะดวก ความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องสัมผัสกับผู้ป่วย

 

 

“หุ่นยนต์ D-EMPIR CARE” มีระบบควบคุมแบบไร้สายระยะไกล รองรับการเชื่อมต่อระบบ WIFI หรือ เครือข่ายมือถือ (Cellular Network)

 

 

 

 

รองรับการสนทนาระหว่างแพทย์และผู้ป่วยด้วยระบบ VDO Call นานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง สามารถข้ามเครื่องกีดขวางบนพื้นราบได้​ ขับเคลื่อนด้วยสายพาน​ทำงานทุกสภาพภูมิประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง