รีเซต

Next-Gen Iron รุ่นใหม่หุ่นยนต์เคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์ด้วยข้อต่อ 82 จุดและ AI ระดับ 2

Next-Gen Iron รุ่นใหม่หุ่นยนต์เคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์ด้วยข้อต่อ 82 จุดและ AI ระดับ 2
TNN ช่อง16
25 พฤศจิกายน 2568 ( 15:53 )
9

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นใหม่ “เน็กซ์-เจน ไอรอน (Next-Gen Iron)” ของบริษัท เอ็กซ์เพิง (Xpeng) กลายเป็นไวรัลทันทีหลังเปิดตัวในงาน “2025 เอไอ เดย์ (AI Day 2025)” ที่กวางโจว เมื่อมันเดินโชว์บนเวทีด้วยท่วงท่าลื่นไหลจนเหมือนมนุษย์มาก จนผู้ชมจำนวนมากเชื่อว่า “ต้องมีคนอยู่ข้างในควบคุม”  เพียง 24 ชั่วโมงต่อมา เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ซีอีโอของ Xpeng จึงกลับขึ้นเวทีพร้อมทีมวิศวกร และตัดผ้าคลุมบริเวณขาหุ่นยนต์ด้วยกรรไกรสด ๆ ต่อหน้าผู้ชม เพื่อเผยให้เห็นโครงสร้างและชิ้นส่วนกลไกภายใน พิสูจน์ว่าไม่มีมนุษย์ซ่อนอยู่จริง

ที่มาของภาพ

xpeng


จุดเด่นเทคโนโลยีของ Next-Gen Iron 

“เน็กซ์-เจน ไอรอน (Next-Gen Iron)” รุ่นใหม่นี้ถือเป็นก้าวกระโดดจากรุ่นแรกในปี 2024 โดยเริ่มจาก 

ที่มาของภาพ

xpeng

  • โครงสร้างกระดูกสันหลังคล้ายมนุษย์ (humanoid spine) ซึ่งออกแบบให้เลียนแบบแนวกระดูกสันหลังของมนุษย์ ทั้งด้านความยืดหยุ่นและการรับน้ำหนัก ทำให้หุ่นยนต์สามารถบิดตัว เอียงลำตัว หรือก้ม-เงยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ทั่วไป โครงสร้างนี้ยังช่วยกระจายแรงระหว่างการเดินหรือเคลื่อนไหว ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการล้ม
  • กล้ามเนื้อไบโอนิค (bionic muscles) ทำงานคล้ายกล้ามเนื้อจริงของมนุษย์ โดยใช้มอเตอร์และระบบขับเคลื่อนแบบยืดหดได้ ให้แรงดันและแรงดึงที่แม่นยำ ช่วยให้การเคลื่อนไหวดูนุ่มนวล มีแรงส่งแบบธรรมชาติ เช่น การก้าวเท้า การยกแขน หรือการหยิบจับสิ่งของ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังมองมนุษย์จริง ๆ เดินอยู่บนเวที
  • ผิวหนังยืดหยุ่นแบบปิดเต็มตัว (fully covered flexible skin) เป็นวัสดุเคลือบภายนอกที่ให้สัมผัสและลักษณะใกล้เคียงผิวมนุษย์ สามารถโค้งงอและยืดตามข้อต่อต่าง ๆ ได้อย่างแนบเนียน ลดร่องรอยของชิ้นส่วนกลไกภายใน ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมดูสมจริงกว่าเดิม และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ชมเข้าใจผิดว่ามีคนสวมอยู่ข้างใน
  • ด้านการเคลื่อนไหว หุ่นยนต์มี องศาการเคลื่อนไหว 82 จุดทั่วร่าง (82 Degrees of Freedom: DoF) หมายถึงจุดขยับอิสระตามข้อต่อในร่างกายจำนวนมาก เช่น คอ ไหล่ ศอก นิ้ว สะโพก เข่า และข้อเท้า ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถขยับได้หลากหลายท่วงท่า ตั้งแต่เดินบนเวที หมุนตัว โบกมือ ไปจนถึงท่าทางที่มีรายละเอียดสูงเหมือนมนุษย์จริง
  • มือแบบมนุษย์พร้อมข้อต่อฮาร์มอนิกจิ๋วที่สุดในอุตสาหกรรม 22 จุด (industry’s smallest harmonic joint with 22 DoF) ทำให้มือสามารถขยับนิ้วแต่ละนิ้วได้ละเอียด จับสิ่งของขนาดเล็ก หยิบแก้ว จับปากกา หรือทำท่าทางสื่อสารได้อย่างสมจริง ระบบข้อต่อฮาร์มอนิกยังช่วยให้การขยับนิ้วมีความแม่นยำและเงียบกว่ามอเตอร์ทั่วไป
  • ในด้านพลังงาน หุ่นยนต์ใช้ แบตเตอรี่โซลิดสเตต (all-solid-state batteries) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ให้พลังงานหนาแน่น น้ำหนักเบา และรองรับการใช้งานยาวนาน ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
  • สมองของหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วย โมเดล “วีแอลเอ” รุ่นที่ 2 (Vision-Language-Action model) ซึ่งผสานการมองเห็น การเข้าใจภาษา และการแปลงคำสั่งเป็นการกระทำ ทำให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้สิ่งรอบตัว ฟังคำสั่ง สนทนา และตอบสนองได้อย่างถูกต้องตามสถานการณ์ เช่น ทำงานร่วมกับมนุษย์หรือให้บริการลูกค้า
  • สุดท้าย หุ่นยนต์ติดตั้ง ชิปตูริงที่พัฒนาเอง 3 ตัว ให้ประมวลผล 2,250 TOPS (three in-house Turing AI chips delivering 2,250 TOPS) ซึ่งเป็นพลังประมวลผลระดับสูงมาก สำหรับการประมวลผลข้อมูลภาพ เสียง ภาษา และการควบคุมการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ ทำให้การตอบสนองรวดเร็วและลื่นไหลไม่ติดขัด

ที่มาของภาพ

xpeng

เมื่อรวมเทคโนโลยีทั้งหมดเข้าด้วยกัน จึงทำให้ Iron สามารถเดิน พูดคุย และโต้ตอบกับมนุษย์หรือหุ่นยนต์อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมนุษย์สวมชุดหุ่นยนต์จริง ๆ

มุมมองและกระแสสังคม

การ “ผ่าหุ่นโชว์” บนเวทีครั้งนี้สะท้อนความก้าวหน้าของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เริ่มเข้าใกล้ความเหมือนมนุษย์อย่างน่าทึ่ง จนเกิดการตั้งคำถามด้านความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของเทคโนโลยี

 Xpeng ระบุว่า หุ่นยนต์จะถูกนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์และบริการสาธารณะภายในปี 2026 เช่น การเป็นมัคคุเทศก์ (tour guides) การเป็นพนักงานขาย (sales clerks) และเป็น เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในพื้นที่บริการ (public service assistants) โดยบริษัทเผยว่าแผนสร้างรายได้จะเริ่มจากการใช้งานในเชิงธุรกิจ ก่อนเข้าสู่ตลาดครัวเรือน 

โดย เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ซีอีโอของ Xpeng ระบุว่า  "บริษัทตั้งเป้าผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ระดับสูงในปริมาณมากภายในสิ้นปี 2026" "Aims for large-scale mass production by end of 2026"

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง