Thor หุ่นยนต์ภาคสนาม ลุยได้ทุกพื้นที่ ยูเครนยังสนใจ เน้นงานเกษตร แต่งานด้านสงครามก็เลิศ !!

บริษัทสตาร์ทอัปด้านดีปเทคจากสเปน Voltrac ประกาศระดมทุนกว่า 8.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 263 ล้านบาท เพื่อเร่งพัฒนาและขยายการผลิต Thor หุ่นยนต์ภาคพื้นดินไฟฟ้า (Unmanned Ground Vehicle – UGV) ที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพภูมิประเทศ ทั้งในไร่นาและเขตความเสี่ยงสูง โดยตั้งเป้าผลิตให้ได้ 100 ยูนิตต่อปีภายในปี 2026
เงินลงทุนครั้งนี้นำโดยกองทุนด้านสภาพภูมิอากาศ Extantia ร่วมด้วยนักลงทุนสายเทคโนโลยีอาหาร และฮาร์ดแวร์อีกหลายแบรนด์ เช่น FoodLabs, Antler, PUSH และ Prototype Capital
Thor หุ่นยนต์อเนกประสงค์ลุยพื้นที่เกษตร ไปจนถึงงานแนวหน้า
Thor ถูกออกแบบให้เป็นหุ่นยนต์ UGV เจเนอเรชันใหม่ ที่สามารถทำภารกิจได้หลากหลาย ไม่จำกัดแค่การเป็นอาวุธสงคราม เป้าหมายในการใช้งานมีตั้งแต่งานไถพรวนดินและงานภาคเกษตร, งานขนส่งโลจิสติกส์ในพื้นที่ขรุขระ, งานเก็บกู้ทุ่นระเบิด (de-mining), รวมไปจนถึงงานลาดตระเวนและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยง
ภายนอกของ Thor ถูกออกแบบมาให้ดูทันสมัย เน้นความแข็งแรง ทนทาน และรองรับการใช้งานหนัก โครงสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมแนวยาวคล้ายรถ UGV ขนาดกลาง ลักษณะลู่ลม เรียบ ไม่มีชิ้นส่วนเกะกะ ให้ภาพลักษณ์ “หุ่นยนต์ภาคสนาม” ที่แข็งแรง มากกว่าเป็นแค่เครื่องจักรการเกษตรธรรมดา
วัสดุส่วนใหญ่เป็นโลหะผสมและโครงเสริมเพื่อ เน้นทนแรงสั่นสะเทือนของการทำงานหนัก ๆ เช่น งานไถ, งานลาก, และงานลุยดิน มีตัวถังที่ปิดทึบด้านข้าง ป้องกันทั้งฝุ่น โคลน หรือน้ำในระดับสูง
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับล้อขนาดใหญ่พร้อมยางลุยดินแบบหนา ซุ้มล้อถูกออกแบบกว้างและสูง ช่วยกันเศษดินหรือหินกระเด็น ระยะจากพื้นถึงใต้ท้องสูง สามารถผ่านหลุม โขดหิน หรือเนินได้ง่าย
ด้านหน้าติดตั้งโครงเหล็กเสริม พร้อมเซนเซอร์และกล้อง มีบาร์กันชนเพื่อป้องกันการชนในพื้นที่หยาบ ด้านหลังติดตั้งระบบยกแบบรถแทรกเตอร์ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เกษตร เช่น เครื่องพ่น ผานไถ หรือรถลากได้ทันที
ภายในถูกพัฒนาให้มีจำนวนชิ้นส่วนน้อยกว่าหุ่นยนต์ทั่วไปถึง 70% ทำให้ทนทาน ซ่อมง่าย และใช้ต้นทุนที่ต่ำลง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถูกวางเป็นโมดูลตรงกลางและท้ายเครื่อง มีระบบเป็นแบบ Swappable สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ทันที มีช่องทางระบายความร้อนรอบแบต
มอเตอร์ติดตั้งใกล้ล้อแต่ละจุด รองรับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ถอดง่าย เพียงน็อตไม่กี่ตัวและสายไฟ 2 เส้น ไม่มีท่อไอเสียหรือชุดเครื่องยนต์ซับซ้อน ทำให้ภาพรวมสะอาดกว่ารถแทรกเตอร์ทั่วไป
รองรับการทำงานทั้งโหมด Autonomous ทำงานอัตโนมัติ และ Teleoperation ควบคุมได้จากระยะไกล ช่วยให้เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียว สามารถควบคุมหุ่นยนต์หลายตัวพร้อมกันได้ สามารถลากสินค้าหนักกว่า 4 ตัน บนพื้นที่ขรุขระได้ เหมาะสำหรับงานโลจิสติกส์แนวหน้า
ถูกสร้างมาเพื่อรับมือวิกฤตแรงงานภาคเกษตร
ผู้ร่วมก่อตั้ง Voltrac คุณ Francisco Infante Aguirre เผยว่าแรงงานภาคเกษตรในยุโรปกำลังลดลงอย่างหนัก โดยคาดว่าจะลดจาก 17 ล้านคน เหลือเพียง 7 ล้านคนภายในปี 2030
Thor จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการพึ่งพาแรงงาน สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เกษตรเดิมได้ เช่น ผานไถ เครื่องหว่านเมล็ด เครื่องพ่นสาร ตัว Aguirre ยังเล่าว่าครอบครัวเขาเคยต้องขายที่ดินเพราะไม่มีแรงงานเพียงพอ และ Thor ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อไม่ให้ครอบครัวเกษตรกรรายอื่นต้องเผชิญชะตาเดียวกัน
Thor ได้รับความสนใจจากหน่วยปฏิบัติการไร้คนขับของยูเครน ซึ่งได้เชิญ Voltrac ไปทดสอบภาคสนาม ทีมงานจึงเดินทางไปพบหลายหน่วยงานและเตรียมเริ่มการทดสอบจริง Voltrac ย้ำว่าหุ่นยนต์จะถูกใช้เฉพาะภารกิจ “ที่ไม่ใช้ความรุนแรง” โดยเน้นไปที่งานด้านโลจิสติกส์ในพื้นที่เสี่ยง รวมไปถึงเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ภาคสนามลง
ในอนาคตทาง Voltrac จะพัฒนา Thor ให้มีระบบขับขี่อัตโนมัติที่แม่นยำขึ้น เพิ่มระบบ Reinforcement Learning การเรียนรู้แบบเสริมแรง ให้ตัวหุ่นได้เรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อปรับการดูแลพืชผลได้แบบเรียลไทม์ และเพิ่มเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนเข้ามา
แหล่งที่มา : interestingengineering.com
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
