รีเซต

บุกจับคาหน้าที่ "หมอสาวเก๊" กำลังทำสวยให้ลูกค้า สวมเอกสารหมอตัวจริง เพิ่งพ้นคุก 2 เดือน

บุกจับคาหน้าที่ "หมอสาวเก๊" กำลังทำสวยให้ลูกค้า สวมเอกสารหมอตัวจริง เพิ่งพ้นคุก 2 เดือน
ข่าวสด
8 ตุลาคม 2564 ( 14:34 )
98
บุกจับคาหน้าที่ "หมอสาวเก๊" กำลังทำสวยให้ลูกค้า สวมเอกสารหมอตัวจริง เพิ่งพ้นคุก 2 เดือน

บุกจับสาวคาคลินิกเสริมความงาม หลังอ้างตัวเป็นหมอ กำลังศัลยกรรมให้ลูกค้า สวมเอกสารหมอตัวจริงสมัครงาน โดนจับมาแล้ว 2 ครั้ง เพิ่งพุ้นคุกได้ 2 เดือน

 

 

วันที่ 8 ต.ค.64 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สําเริง อําพรรทอง, พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สํารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาใช้เอกสารของแพทย์หญิง สมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลาที่ คลินิกเสริมความงามหลายแห่ง ตรวจสอบพบเคยถูกจับ 2 ครั้ง ศาลสั่งจาคุก 7 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือน ส.ค.64 กลับมากระทาความผิดซ้ำอีก

 

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า​ ตามที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีบุคคลใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Puguntong pacharamonna" โพสต์ข้อความและภาพถ่ายของบุคคลสวมเสื้อกาวน์แพทย์ ปักชื่อของแพทย์ผู้อื่น ทำหัตถการด้านศัลยกรรมความงาม อยู่ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงามหลายแห่ง

 

กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ปฏิบัติงานร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รวบรวมพยานหลักฐานกรณีดังกล่าว โดยได้สอบสวนปากคำแพทย์หญิงที่ถูกนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไปใช้ เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่ง ย่านบางแค ที่ผู้ต้องหานำเอกสารของแพทย์หญิงไปใช้เพื่อสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลา และผู้เสียหายที่เข้ารับการทำหัตถการ จนสามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหารายนี้คือ น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตารวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้จับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ พร้อมตรวจยึดของกลาง ชุดที่ผู้ต้องหาที่สวมใส่ขณะทำงานหัตถการ จำนวน 5 ชุด และอุปกรณ์ทางการแพทย์

 

จากการสอบสวน น.ส.ณัฐชานันท์ ให้การโดยอ้างว่า ได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์อ้างว่าตนจะเปิดคลินิกเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงาน โดยให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ เมื่อได้รับเอกสารจากแพทย์ จะคัดเลือกแพทย์หญิง ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน จากนั้นจึงนำเอกสารดังกล่าวมาใช้สมัครทำงานในคลินิกเสริมความงามในเขต กทม. จำนวนหลายแห่ง

 

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐาน “ใช้คําหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม”ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญาฐาน “ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน” ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,ฐาน “เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท

 

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ เคยถูกดำเนินคดี จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2556 กระทำความผิด ฐาน “ร่วมกันนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชน , ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลและประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม , ปลอมและใช้บัตรประชาชนปลอม ขายหรือสั่งเข้ามาซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้ รับอนุญาต“ ศาลพิพากษา จำคุก 7 ปี และ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2559 กระทำความผิด ฐาน “ลักทรัพย์ , เอาไปเสียซึ่ง เอกสารของผู้อื่น , ปลอมและใช้เอกสารปลอม , ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

 

ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ ได้ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการสถานเสริมความงาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่เว็ปไซต์ แพทยสภา www.tmc.or.th/check_md/ โดยกรอกชื่อ นามสกุล ของแพทย์ให้ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ทันที และเว็ปไซต์ สานักสถานพยาบาลฯ http://privatehospital.hss.moph.go.th/ เพื่อตรวจสอบข้อมูล สถานเสริมความงาม ถ้าไม่มีข้อมูลอาจเป็นคลินิกเถื่อน

 

รวมถึงแจ้งเตือนยังผู้ที่ประกอบกิจการสถานเสริมความงาม กรณีรับสมัครแพทย์หรือบุคลากรอื่นๆ มาทำหัตถการภายในสถานเสริมความงาม จะต้องตรวจสอบเอกสารและพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือ เพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง