รีเซต

ศูนย์จีโนมฯย้ำ โอมิครอน BA.2 ตัวจบเกมโรคระบาด

ศูนย์จีโนมฯย้ำ โอมิครอน BA.2 ตัวจบเกมโรคระบาด
TNN ช่อง16
27 มกราคม 2565 ( 13:11 )
80
ศูนย์จีโนมฯย้ำ โอมิครอน BA.2 ตัวจบเกมโรคระบาด

วันนี้ ( 27 ม.ค. 65 )ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก ถึงแนวโน้มการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน" และการกลายพันธุ์แยกย่อย ระบุว่า 

"โอมิครอน" มีวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อ "Endgame" การระบาดของโควิด-19 แบบ "Pandemic" หรือไม่?

จากข้อมูลล่าสุดมีแนวโน้มจะเป็นไปได้ ข้อมูลจาก นักวิจัยของประเทศแอฟริกาใต้ได้นำเสนอกราฟที่น่าสนใจ  แสดงให้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนในแอฟริกาใต้ เพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดภายในเวลาเพียง 2 เดือน

โดยมีผู้เสียชีวิตต่ำมาก ในขณะที่ช่วงเวลาการติดเชื้อระลอกแรก (อู่ฮั่น) ระลอกสอง (เบตา) และระลอกสาม (เดลตา) ใช้เวลายาวนานถึง 6 เดือน และมีผู้เสียชีวิตสูงกว่าหลายเท่าตัวและจากที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ได้สุ่มดาวน์โหลด รหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ  BA.1  BA.2  BA.3 อย่างละ 100 ตัวอย่าง รวมทั้งรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของชาวต่างชาติจากเอเชียใต้หนึ่งรายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และติดเชื้อ BA.2  มาวิเคราะห์การกลายพันธุ์แบบแผนภูมิที่แสดงถึงสายวิวัฒนาการแตกกิ่งก้านสาขาคล้ายต้นไม้ 

พบความสัมพันธ์ด้านจีโนมระหว่างโอมิครอนทั้ง 3 สายพันธุ์ มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน B.1.1 ซึ่งมีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงกับไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" มากกว่าสายพันธุ์ อัลฟา เบตา แกมมา เดลต้า  

BA.1 กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ประมาณ 60-70 ตำแหน่ง

BA.2 กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ประมาณ 70-80 ตำแหน่ง

BA.3 กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ประมาณ 55-65 ตำแหน่ง

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ระบุ เพิ่มเติมว่า การกลายพันธุ์ของ "โอมิครอน" ทำให้เห็นแนวโน้มว่าสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ต่างจากอู่ฮั่นไป “น้อยกว่า 60 ตำแหน่ง” เช่น อัลฟา เบตา แกมมา เดลต้า  กำลังเข้าสู่โหมดของการสูญพันธุ์หรือ "Endgame" โดยมีโอมิครอนที่มี

การกลายพันธุ์ต่างไปจากอู่ฮั่นถึง 80-100 ตำแหน่งเข้ามาแทนที่ แถมยังสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านสายพันธุ์ "เดลตา" ไม่ให้เพิ่มจำนวนกันได้อีกต่อไป ในส่วนของโอมิครอนเองนอกจากจะมีสายพันธุ์หลัก BA.1 แล้ว ยังมีสายพันธุ์อุบัติตามกันมาคือ BA.2 และ BA.3  

โดยเฉพาะ BA.2 มีอัตราการเพิ่มจำนวนเป็น 120% เมื่อเทียบกับ BA.1 และจากข้อมูลทางคลินิกเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้พบว่าอาจ “ไม่ก่อโรครุนแรง”เช่นเดียวกับ BA.1

 ทำให้เหมือนว่าธรรมชาติส่ง BA.1 มาแล้วยังส่ง BA.2 ตามมาด้วยเพื่อชะลอหรือยุติการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก (Pandemic)  คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่าการคาดคะเนโดยอาศัยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยังมีจำกัดจะคลาดเคลื่อนไปมากน้อยเพียงใด


ภาพจาก :  AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง