Facebook เมินกระแสตลาด ทุ่มงบพัฒนา Metaverse ต่อแม้ขาดทุนต่อเนื่อง
ขณะที่ปี 2022 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเมตาเวิร์สหรือจักรวาลนฤมิต โลกเสมือนจริงที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี และภายในจะมีพื้นที่ให้ร่างจำลองของมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี หรือ Avatar ให้สามารถแลกเปลี่ยนและมีปฏิสัมพันธ์กันได้ แต่ดูเหมือนว่า เมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) จะไม่สนใจสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งยังเปิดโครงการใหม่สวนทิศทางตลาดอีกด้วย
โดยแอนดรูว บอสเวิร์ธ (Andrew Bosworth) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ เรียลลิตี แล็บ (Reality Labs) หน่วยงานที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR ของบริษัท เมตา (Meta) ประกาศผ่านบล็อกว่า บริษัทกำลังจะใช้งบประมาณ 20% จากงบประมาณค่าใช้จ่ายในปี 2023 ในการพัฒนาโครงการเมตาเวิร์ส ขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) จะกินส่วนแบ่งของงบประมาณดังกล่าวไปราว 10% ซึ่งเป็นงบประมาณเทียบเท่าเท่ากับปีที่แล้ว
ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และการที่เมตาต้องขาดทุนจากค่าดำเนินการด้านเมตาเวิร์สต่อเนื่องมานานหลายปี ทำให้เมตาต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์ของนักลงทุน จากการทุ่มงบประมาณไปในโครงการเมตาเวิร์ส ที่ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 9,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 326,438 ล้านบาท ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2022
อย่างไรก็ตาม บอสเวิร์ธ ประธานเทคโนโลยีของเรียลลิตี แล็บ กล่าวว่า การยกเลิกแผนการทุกอย่างที่พยายามฝ่าฟันมา อาจทำให้เกิด "ผลลัพธ์ที่เลวร้าย" กับบริษัทได้ เขายังชี้ว่า เราจะต้องอดทนรอผลลัพธ์แห่งความสำเร็จนี้ ที่อาจจะมาในระยะเวลาอีกหลายสิบปี
ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการของบริษัทที่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AR และจากยอดใช้งานรายวันของเฟซบุ๊ก ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทยังคงมั่นใจในการใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 20% ในเรียลลิตี แล็บส์ (Reality Labs) โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะเป็นรากฐานสำหรับอนาคตต่อไป โดยล่าสุด เมตา ได้ส่งชุดหูฟังเควสต์ โปร (Quest Pro) ที่จำเป็นสำหรับโครงการ AR ของบริษัท เนื่องจากมีเทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวดวงตาและใบหน้าให้กับบรรดานักพัฒนา และผู้สร้างไปเป็นที่เรียบร้อย
ที่มาของรูปภาพ Meta
อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนในบริษัทเมตา อาจจะต้องอดทนไปอีกสักพัก กว่าที่โครงการแว่นตา AR ดังกล่าวจะออกดอกออกผล โดยบอสเวิร์ธระบุว่า บริษัทยังคงต้องการเวลาในการพัฒนาแว่นตา AR ไปอีกสักพัก เพื่อให้แว่นดังกล่าวมีขนาดเล็กขึ้น ใส่ได้อย่างสะดวกสบายขึ้น และทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อม ๆ กับอัตราการใช้พลังงาน และความร้อนที่จะต้องลดลงไปมากกว่านี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ จอห์น คาร์แมค (John Carmack) ผู้บุกเบิกเทคโนลีเมตาเวิร์สของเมตา (Meta) ลาออกจากบริษัท พร้อม ๆ กับทิ้งคำวิจารณ์ไว้ว่า บริษัทแห่งนี้ขาดประสิทธิภาพ ขณะที่บริษัทแอปเปิล และ เอชทีซี กำลังเปิดตัวชุดหูฟัง AR ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2023 ดังนั้นเมตาอาจจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่านักลงทุน ด้วยการเร่งลบข้อครหา และเสียงวิจารณ์ทั้งหมดไปให้ได้
ทั้งนี้ แผนกเรียลลิตี แล็บส์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบพื้นฐานของตัวแทนผู้ใช้ (Avatar) ที่จะมีการอัปเดตเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ในปี 2023 ที่กำลังจะถึงนี้
ที่มาของข้อมูล engadget
ที่มาของรูปภาพ Reuters