รีเซต

AOTแผนลุย3สนามบิน ลั่นกำไรจะทุบสถิติปี67

AOTแผนลุย3สนามบิน ลั่นกำไรจะทุบสถิติปี67
ทันหุ้น
1 กันยายน 2565 ( 07:05 )
101

#AOT #ทันหุ้น – AOT เตรียมหารือแผนโอนย้าย 3 สนามบินร่วมกับกรมท่าอากาศยาน ได้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่ม 6.5 ล้านคน ส่วนประมาณการผู้โดยสารสนามบิน 6 แห่งปัจจุบันคาดฟื้นแตะ 66% เมื่อเทียบกับฐานปี 2562 และจะพลิกกลับทำกำไรแตะระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป  นักวิเคราะห์ชูสนามบินใหม่เป็นอัพไซด์กำไร 5-6% แนะซื้อเป้า 80 บาท

 

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 เห็นชอบให้ AOT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานของรัฐเข้าไปเป็นผู้บริหารจัดการท่าอากาศยานอุดรธานี, ท่าอากาศยานบุรีรัมย์, และท่าอากาศยานกระบี่ แทนกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่าขั้นตอนจากนี้ AOT จะเร่งประสานงานกับทางกรมท่าอากาศยาน เพื่อกำหนดแผนการดำเนินงานร่วมกัน

 

ทั้งนี้จากเว็บไซต์กรมท่าอากาศยาน (ทย.) รายงานสถิติเที่ยวบิน และปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานอุดรธานี, ท่าอากาศยานบุรีรัมย์, และท่าอากาศยานกระบี่ เป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารในลำดับต้นๆ โดยในปี 2562 ท่าอากาศยานกระบี่ มีเที่ยวบินสูงสุด จำนวน 24,583 เที่ยวแบ่งเป็น Domestic ทั้งสิ้น 16,559 เที่ยวบิน, International ทั้งสิ้น 8,024 เที่ยวบิน, จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,658,131 คน ขณะที่งวด 7 เดือนแรกของปี 2565 มีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 6,001 เที่ยวบิน มีปริมาณผู้โดยสารทั้งสิ้น  791,844 คน

 

ส่วนท่าอากาศยานอุดรธานี เป็นอันดับ 2 ในปี 2562 มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 18,045 เที่ยวบิน มีปริมาณผู้โดยสารทั้งสิ้น 2,515,871 คน ขณะที่งวด 7 เดือนแรกของปี 2565 มีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 7,893 เที่ยวบิน และมีปริมาณผู้โดยสารทั้งสิ้น  1,093,986 คน ส่วนท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ทั้งปี 2562 มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 3,461 เที่ยวบิน ปริมาณผู้โดยสารทั้งสิ้น 355,497 คน ขณะที่งวด 7 เดือนแรกของปี 2565 มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 1,022 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสาร 114,709 คน

 

ปี 67 กำไรแรงนิวไฮ

 

สำหรับส่วนปริมาณผู้โดยสารทั้งปี 2565/2566 (ต.ค.2565-ก.ย.2566) ของทั้ง 6 ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT ปัจจุบันจะฟื้นตัวกลับมาที่ราว 66% เมื่อเทียบกับปริมาณผู้โดยสารทั้งปี 2562 ที่ 143 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศ 57.18 ล้านคน และผู้โดยสารต่างประเทศ 85.82 ล้านคน และยังคงคาดการณ์ว่าจะผลการดำเนินงานจะกลับสู่ “ระดับปกติ” ในปี 2567

 

“ปี 2566 ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวอย่างมากก็ในระดับ “มีลุ้นกำไร” และจะกลับสู่ระดับปกติในปี 2567 ซึ่งมีแนวโน้มที่กำไรจะสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง อาจสูงกว่าสถิติทำกำไรตลอดกาลครั้งล่าสุดคือปี 2562 ที่มีกำไรสูงสุด 26,000 ล้านบาทราว 1 เท่าได้ บนสมมติฐานที่ว่าจีนผ่อนคลายการเดินทาง และสถานการณ์ต่างๆ ของโลกกลับเข้าสู่สภาวะปกติ”

 

ทั้งนี้ AOT ได้วางแผนการดำเนินงาน – แผนพัฒนาธุรกิจการบินงานให้สอดคล้องกับช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ทางธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกทั้งงานบริการผู้โดยสาร และด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันสนามบิน, จุดบริการเช็กอินอัตโนมัติ, หุ่นยนต์สนามบิน ฯลฯ รวมถึงมีแผนเตรียมเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT1) ซึ่งมีระบบอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ผสมผสานความเป็นดิจิทัลแอร์พอร์ตมากขึ้นตอบสนองพฤติกรรมเดินทางยุคใหม่

 

“ปี 2566 จะเป็นยุคเปลี่ยนผ่านของธุรกิจการบิน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อแข่งขันในตลาดที่ผู้เล่นหน้าใหม่และผู้ประกอบการรายเก่าที่เข้มแข็งขึ้นหลังยุคโควิด-19  เพื่อวางรากฐานความมั่งคั่งไปอีกนับทศวรรษ โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ขณะเดียวกันพนักงานทุกคนต้องปรับตัวให้เข้าสู่รูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินยุคใหม่”

 

ชู Top Pick เป้า 80 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด  (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คำนวณจากสมมุติฐานว่าปริมาณผู้โดยสารของทั้ง 3 สนามบินรวมเป็น 6.8 ล้านคนต่อปี และมีเที่ยวบิน 4.8 หมื่นเที่ยวบินต่อปี จะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2566/2567ที่ประมาณ 5-6% จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” AOT ราคาเหมาะสม 80 บาท และเป็นเลือกเป็นหุ้นเด่นที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง