รีเซต

“GBX” จัดให้ 3 หุ้นเด่น ธีมเปิดเมือง มิ.ย.นี้

“GBX” จัดให้ 3 หุ้นเด่น ธีมเปิดเมือง มิ.ย.นี้
ทันหุ้น
20 เมษายน 2565 ( 10:42 )
141
“GBX” จัดให้ 3 หุ้นเด่น ธีมเปิดเมือง มิ.ย.นี้

#GBS #ทันหุ้น - บล. โกลเบล็ก(GBS) ประเมินหุ้นไทย Sideway นักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,650-1,700 จุดพร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนใน 3 หุ้นรับอานิสงส์เปิดประเทศ 1 มิ.ย.นี้ ชู AOT-ERW-CENTEL น่าลงทุน

 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กจำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นว่ายังแกว่งผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,650-1,700 จุด

 

ขณะที่ปัจจัยกดดันการลงทุนยังคงมีต่อเนื่อง อาทิ สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.5%YoYในเดือนมี.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524 และสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 8.4%YoY ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 11.2%YoYในเดือนมี.ค. พุ่งทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีนี้ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10.6%YoY กดดันให้FED เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

 

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและทยอยสั่งล็อกดาวน์ในหลายเมืองส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจต่อเนื่อง แม้ว่าจีนจะรายงาน GDP ไตรมาส 1/2656 ขยายตัว 4.8%YoY สูงกว่าคาดการณ์ที่ 4.4%YoY ขณะที่หลายสำนักวิจัยทยอยปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 65 ของจีนอย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางธนาคารกลางจีนประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาคอุตสาหกรรม บริษัท และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เพื่อบรรเทาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

ด้านปัจจัยในประเทศทางกระทรวงการคลังได้มีการปรับลดกรอบการขยายตัวของ GDP ปี 2565 เหลือ 3-4% จากเดิม 3.5-4.5% ค่ากลาง 4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ราคาน้ำมันตลาดโลกขึ้นราคา และการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

ทั้งนี้ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า การรายงานผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารงวดไตรมาส 1/2565 ในสัปดาห์นี้  และการประชุมศบค.ประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังสงกรานต์ เตรียมรับมือเปิดเทอม และปรับแผนเข้าออกประเทศ ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยและปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR อียูรายงานดุลการค้าเดือนก.พ. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. สหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 21เม.ย.)อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนีการผลิตเดือนเม.ย

 

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ศบค.เตรียมประชุมเพื่อหารือการปลดล็อคมาตรการเข้าประเทศทุกเงื่อนไข 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งรวมทั้งเลิก ThailandPass, Test&Goส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวมีโอกาสกลับมาคึกคักได้ ซึ่งหุ้นที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยบวกดังกล่าวได้แก่ AOT, ERW และ  CENTEL

 

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบล. โกลเบล็กกล่าวว่า ยังคงต้องจับตามุมมองของเจมส์ บูลลาร์ด ที่ต้องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้น อีกทั้งช่วงปลายสัปดาห์มีคำแถลงของประธานเฟดจึงทำให้ราคาทองคำอาจผันผวนได้ เพราะตลาดรับข่าวเงินเฟ้อไปแล้วและคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสหรัฐอาจผ่านจุดพีคไปแล้ว การแสดงความคิดเห็นของเหล่าคณะกรรมการเฟด อาจจะกดดันราคาทองคำตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไป

 

โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้อาจมีการย่อตัวลงได้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงที่ระดับ 2.86% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มที่เฟดจะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมีมากขึ้น เมื่อเงินเฟ้อผ่านจุดพีคไปแล้ว การใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นอาจกดดันราคาทองคำ หากราคาปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 2,000-2,015$/ozแล้วไม่ผ่าน แนะนำทยอยเทขายทำกำไร

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง