รีเซต

SCCฐานเงินแข็งแกร่ง สบโอกาสรุก3ธุรกิจใหม่

SCCฐานเงินแข็งแกร่ง สบโอกาสรุก3ธุรกิจใหม่
ทันหุ้น
4 พฤศจิกายน 2565 ( 17:29 )
57

SCCปรับกลยุทธ์รุก 3 ธุรกิจใหม่พลังงานทดแทน, โลจิสติกส์, และ Smart Living แถมตุนกระแสเงินสดแข็งแกร่ง 6.9 หมื่นล้านบาท เชื่อภาวะเงินเฟ้อและราคาพลังงานทรงตัวสูงเป็นปัจจัยกดดันชั่วคราว มั่นใจธุรกิจปิโตรผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดปลายปี 2566-2567 เข้าสู่ภาวะสมดุล ลุ้นจีนเปิดประเทศหนุนความต้องการใช้ปิโตรฟื้น

 

นายณรงค์พันธุ์  ลีสหะปัญญา Director-Investor Relations and Strategic Planning บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่ทรงตัวระดับสูง, ภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และสเปรดปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง กดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สวนทางกับความต้องการใช้ปิโตรเคมีที่ลดลง

 

บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันและสนับสนุนการเติบโอย่างยั่งยืนในอนาคตด้วยการรักษากระแสเงินสดโดยปรับลดงบประมาณการลงทุนทั้งปี 2565 ลงเหลือประมาณ 55,000 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 70,000-80,000 ล้านบาทมุ่งเน้นลงทุนเฉพาะโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ Long Son Petrochemicals (LSP)เพื่อให้สามารถเริ่มเดินเครื่องทดสอบได้ภายในไตรมาส 2/2566 ตามกรอบเวลาที่กำหนด

 

พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่าสถานการณ์กำลังการผลิตปิโตรเคมี (Demand) จะเริ่มสอดคล้องกับความต้องการใช้ปิโตรเคมี (Supply) ภายในปี 2567 เนื่องจากปัจจุบันทวีปยุโรปเผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย และภาวะเงินเฟ้อ ประกอบกับจีนยังคงปิดประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ปิโตรเคมีลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

เลื่อนนำ SCGC เข้าเทรด

 

สำหรับความคืบหน้าการนำบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ SCGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นั้นบริษัทได้รับอนุมัติแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แล้วแต่ด้วยสถานการณ์โดยรวมของทั้งกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี และสถานการณ์เศรษฐกิจบริษัทจึงพิจารณาเลื่อนแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปออกไปในปี 2566

 

อย่างไรก็ตาม ณ งวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีกระแสเงินสดสูงถึง 6.9 หมื่นล้านบาทง จึงมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก (



Mega Trends) 3 ธุรกิจใหม่ คือ 1. ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เป้าหมายมุ่งลดต้นทุน และสามารถส่งต่อความรู้ (Know How) ให้กับประชาชนทั่วไปได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับโซลาร์รูฟ และโซลาร์ลอยน้ำซื้อบริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ภายในองค์กร และมองหาโอกาสเติบโตผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งM&A หรือ  JV ในอนาคต

 

ขยายฐานธุรกิจโลจิสติกส์

 

สำหรับธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และซีเมนต์ บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ในการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมธุรกิจโลจิสติกส์กับ JWD เพื่อรุกเข้าสู่ 2.ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ มุ่งขยายฐานธุรกิจให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน ด้วยบริการที่หลากหลายทั้งบริการคลังสินค้า,บริการขนส่งสินค้าทั้งทางบก เรือ อากาศ, บริการท่าเทียบเรือ บริการนำเข้า-ส่งออก ระบบห้องเย็น และ 3. ธุรกิจ Smart Living นำเสนอ นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อคุณภาพอากาศและลดการใช้พลังงานในอาคาร

 

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดว่าการฟื้นตัวของจีนจะกลับมาในปี 2566 โดยเฉพาะไตรมาส 1/2566 ที่เป็นช่วง Re-Stock จะช่วยลดแรงกดดัน Oversupply และส่งให้ธุรกิจปิโตรเคมีของ SCC ฟื้นตัว มองธุรกิจซีเมนต์ และบรรจุภัณฑ์ มีอัตรากำไรฟื้นต่อเนื่องตามการปรับราคาขาย ต้นทุนกระดาษที่ลดลง มองทยอยซื้อลงทุนระยะยาว ประเมินราคาพื้นฐานปี 2566 อยู่ที่ 400 บาทต่อหุ้น

 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง