STIผลงานทุบสถิติ ควบรวมAECหนุน รุกประมูลงานใหม่
ทันหุ้น - สู้โควิด – STI โชว์กำไรไตรมาส 3/63 พุ่งขึ้น 93.5% แตะ 44.7 ล้านบาท ส่วนรายได้ 488.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162.4% หลังควบรวม AEC และปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น หนุนงบ 9 เดือนแรก กำไรทะยาน111.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% สร้างสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2563 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563) มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท อยู่ที่ 44.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.5% และงวด 9 เดือนแรกปี 2563 อยู่ที่ 111.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง และความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดี โดยกลุ่มบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น 31.6% อัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท 9.9%
รายได้พุ่งขึ้น 162.4%
สำหรับรายได้จากการให้บริการ งวดไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 488.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และงวด 9 เดือนแรก ปี 2563 อยู่ที่ 1,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.3% จากการรับรู้รายได้ของ บริษัท เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC เข้ามาเต็มไตรมาส 3/2563 เป็นครั้งแรก รวมไปถึง ปริมาณงานที่ให้บริการของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น และความสำเร็จในการบริหารจัดการ ส่งมอบงานได้ตามแผนที่วางไว้
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 4,300 ล้านบาท โดยเป็น Backlog ในส่วนของ STI ประมาณ 1,700 ล้านบาท และ AEC ประมาณ 2,600 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน และงานภาคเอกชนจากบริษัทชั้นนำของประเทศ สะท้อนความต่อเนื่องในการรับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัท อย่างมั่นคงในอนาคต โดยงานโครงการที่บริษัท ได้รับเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ลงนามสัญญาจัดจ้าง ออกแบบและควบคุมงานศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ณ สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง สวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2–3 เป็นต้น
ลุยประมูลงานใหม่
ทั้งนี้ บริษัทประเมินแนวโน้มธุรกิจในช่วงปลายปี 2563 จนถึงปี 2564 จะได้รับอานิสงส์จากการเร่งลงทุนของภาครัฐบาล ในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมไปถึงภาคเอกชนเริ่มมีการขยายการลงทุน เข้ามาสนับสนุน Backlog ให้กับกลุ่มบริษัทเพียงพอรับรู้รายได้ในช่วง 3 - 4 ปีข้างหน้า สะท้อนแผนการรับรู้รายได้ที่มั่นคง และสม่ำเสมอ ซึ่งกลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง และเป็นงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น
“ภายหลัง STI ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ AEC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ที่มีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนให้มีการรับรู้รายได้ของ AEC เข้ามาเพิ่มเติมนับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2563 เป็นต้นมา และสนับสนุนให้ STI มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)