คดีพลิก! 'บิ๊กโจ๊ก' แถลงคดีเด็ก 6 ขวบดับ แม่ก่อเหตุเอง ชี้เป็นคนโมโหร้าย แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

‘บิ๊กโจ๊ก’ นำทีมแถลงข่าวพ่อเลี้ยงฆ่าลูก 6 ขวบยัดรถ ‘พลิก’ หลังแม่เปิดปากสารภาพลงมือเอง ขณะพ่อเลี้ยงคือผู้ปกป้องลูกเลี้ยง แพทย์ระบุเด็กถูกทำร้ายสะสม 3 เดือน ล่าสุดถูกตีที่ศีรษะแตก กะโหลกร้าว สมองบวมจนเสียชีวิต

จากกรณี ด.ช.สายฟ้า ถนอมวงษ์ อายุ 6 ปี เสียชีวิตปริศนาภายในรถของนายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยง ที่จอดอยู่ริมถนน ด้านชาวบ้านเปิดเผยว่าผู้ตายถูกผู้ปกครองบังคับให้นอนในรถเป็นปีๆ และบังคับให้นอนในรถทุกคืน ห้ามออกจากรถหลัง 9 โมง เพราะเชื่อในไสยศาสตร์ โดยผลชันสูตรศพระบุว่าตามร่างกาย ด.ช.สายฟ้า มีรอยฟกช้ำ กะโหลกศีรษะร้าว แขนและขาหัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมานั้น

คดีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร., พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ รศ.พล.ต.ต.ดร.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จว.ตราด ให้ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กให้แน่ชัด เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงภายในครอบครัว การทารุณกรรมเด็ก และประชาชนให้ความสนใจ

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร. (ชุด TICAC) ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2, ภ.จว.ตราด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมงอบ ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิต และมีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

ล่าสุด วันนี้ (5 มกราคม) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์แถลงว่า เด็กวัย 6 ขวบเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายสะสมมานาน ซึ่งครั้งแรกพ่อเลี้ยงได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายเด็กเอง แต่สุดท้ายเมื่อมีการสอบสวนในเชิงลึกแล้วพบว่า ผู้ทำร้ายเด็กวัย 6 ขวบจนเสียชีวิตคือ แม่ของเด็กเอง เกิดจากอารมณ์รุนแรงและโมโหร้าย โดยใช้ไม้แขวนเสื้อตีที่ศีรษะลูกและตามร่างกาย ซึ่งเพื่อนบ้านก็ให้การยืนยันว่าแม่ใช้ไม้แขวนเสื้อตีเด็กมาเป็นระยะๆ และนำลูกมานอนในรถยนต์ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงด้วยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

“ในคดีนี้ยังต้องมีการดำเนินการเยียวยาเด็กวัย 11 เดือนอีกคน ซึ่งเป็นลูกของทั้งสองคน โดย พมจ.ตราดได้นำเด็กไปดูแลแล้ว ทั้งนี้ ในการตรวจหลักฐานดำเนินคดีเพื่อให้อัยการสั่งฟ้องได้ทำการตรวจดีเอ็นเอและหลักฐานทางนิติวิทยา พบว่าเด็กเสียชีวิตจากการถูกตีที่ศีรษะและกะโหลกร้าว ทำให้สมองบวมและเสียชีวิต สอดคล้องกับคำรับสารภาพของแม่เด็กที่ยอมรับว่าได้ใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนเสียชีวิต และเป็นการตี หรือทำร้ายสะสม ตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงธันวาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ใช้ไม้หน้า 3 ตีด้วย โดยวันนี้ทางตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า วันนี้สถานการณ์ความรุนแรงในสังคมมีมากขึ้น อยากจะบอกพ่อและแม่ไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจึงต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สูญเสียมากคือการเสียชีวิตของเด็ก ขณะเดียวกันวันนี้สิทธิของเด็กมีมาก เด็กมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายที่พ่อและแม่ไม่สามารถไปล่วงละเมิด หรือทำรุนแรงได้ พ่อแม่ไม่ได้เป็นเจ้าของในตัวเด็กทั้งหมด และยังมี พ.ร.บ.ความรุนแรงของเด็ก ที่มีการดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ขอเตือนว่าพ่อแม่เด็กต้องคำนึงถึง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ทำเป็นอุทาหรณ์ให้ในเรื่องนี้ โดยสถานศึกษา สถาบันครอบครัวต้องสอนว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ขณะที่การคลี่คลายคดีนั้น ทางตำรวจสืบสวนภาค 2 และชุด ศพดส.ตร.ได้นำตัวพ่อแม่มาสอบสวนเพื่อหาความจริง และทางพ่อได้ยอมรับสารภาพ แต่เมื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ชาวบ้านได้ให้ข้อมมูลเพิ่มเติมว่าพ่อไม่น่าจะเป็นผู้ทำร้าย เพราะแม่เป็นผู้มีอารมณ์รุนแรง จึงได้ทำการตรวจหาความจริงอีกครั้ง สุดท้ายถูกกดดัน มาก ประกอบกับ พมจ.ตราด ได้เข้ามารับลูกไปดูแล จึงได้ยอมรับสารภาพออกมา

นพ.อนิรุต วรวาท แพทย์นิติเวช รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี กล่าวว่า การบาดเจ็บที่พบหลักๆ จะอยู่ที่ศีรษะ ซึ่งยังพบรอยฟกช้ำที่ร่างกาย ส่วนศีรษะมีบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ แต่ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นมาจากบาดเเผลจากที่ศีรษะใหม่ที่แตกร้าว สมองฟกช้ำ ทั้งนี้ ไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก แต่เกิดมาเป็นระยะๆ ต่อเนื่องสะสมมาตลอด ใกล้เคียงกับคำรับสารภาพที่แม่ได้ยอมรับ

ด้านนางจรัสพร ชนะศุภบวร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตราด (พมจ.ตราด) กล่าวว่า หลังจากนี้ได้นำเด็กวัย 11 เดือน บุตรของผู้ต้องหาเข้ามาดูแลและเยียวยาในสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตราด ที่มี น.ส.วาเลนไทน์ ศรศรีทอง ดูแลอยู่แล้ว ส่วนญาติพี่น้องหากจะนำตัวเด็กไปดูแลภายหลังก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการตรวจสอบถึงความสามารถและการดูแลเด็กว่าจะสามารถดำเนินการได้มากเพียงใด และเด็กจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเป็หน้าที่ของ พมจ.ตราด ในการดำเนินการครั้งนี้