ภารกิจท้าทายของ 'บิ๊กต่าย' บนเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 15

ในห้วงเวลาที่วงการตำรวจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ "บิ๊กต่าย" ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 ท่ามกลางความคาดหวังจากทั้งภายในองค์กรและสังคมภายนอก การเข้ารับตำแหน่งของเขาในเดือนตุลาคม 2567 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในอาชีพของตัวเขาเอง แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการตำรวจไทยที่กำลังต้องการการปฏิรูปและฟื้นฟูภาพลักษณ์อย่างเร่งด่วน

ภูมิหลังและความท้าทาย

"บิ๊กต่าย" เข้ารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องความเชื่อมั่นของประชาชน การปราบปรามอาชญากรรมรูปแบบใหม่ และความขัดแย้งภายในองค์กร ประสบการณ์ของเขาในการดูแลงานสำคัญหลายด้าน เช่น การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการฟอกเงิน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้และทรัพยากรธรรมชาติ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้

ภารกิจเร่งด่วน

1. การปราบปรามยาเสพติด

หนึ่งในภารกิจสำคัญที่รัฐบาลและสังคมคาดหวังคือการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง "บิ๊กต่าย" จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การปราบปราม โดยไม่เพียงแต่จับกุมผู้กระทำผิด แต่ต้องมุ่งเน้นการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดอย่างเป็นระบบ การประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขและทหารอาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างมาตรการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

2. การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

อาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง "บิ๊กต่าย" ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาจต้องพิจารณาการจัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้เสียหายจากอาชญากรรมประเภทนี้

การปฏิรูปองค์กร

1. การแต่งตั้งโยกย้าย

ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งคือการสร้างความเป็นธรรมในระบบการแต่งตั้งโยกย้าย โดยเฉพาะในระดับสถานีตำรวจทั่วประเทศ "บิ๊กต่าย" ต้องยึดหลักอาวุโสและความสามารถอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการแทรกแซงและสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจ

2. การปรับปรุงสวัสดิการ

การผลักดันให้มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะในเรื่องที่พักอาศัย เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ "บิ๊กต่าย" ต้องให้ความสำคัญ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและลดโอกาสการทุจริต

ความท้าทายทางการเมือง

การดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ไม่เพียงแต่ต้องรับมือกับปัญหาภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองด้วย กรณีของ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อาจยังเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของ "บิ๊กต่าย" หากมีการหวนคืนสู่วงการตำรวจ ดังนั้น การรักษาสมดุลระหว่างการทำงานตามหลักวิชาชีพและการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลจึงเป็นสิ่งที่ "บิ๊กต่าย" ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ตลอดระยะเวลา 2 ปีบนเก้าอี้ ผบ.ตร. "บิ๊กต่าย" มีภารกิจท้าทายรออยู่มากมาย ทั้งการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม การปฏิรูปองค์กร และการรับมือกับแรงกดดันทางการเมือง ความสำเร็จของเขาจะไม่เพียงแต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น แต่ยังจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม การทำงานด้วยความโปร่งใส ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และมุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาองค์กรตำรวจไทยไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน