สรุปประเด็น “ไตรรงค์” แถลงตอบ “บิ๊กโจ๊ก” ยันใช้สิทธิ์ดำเนินคดี ปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจ

พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวพาดพิงผ่านรายการหนึ่งว่า “แก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดคือตำรวจ” ซึ่งถือเป็นการกล่าวหาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ตนถูกพาดพิงในหลายคดี โดยเฉพาะคดีของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ยืนยันว่าการดำเนินคดีเป็นไปตามพยานหลักฐาน ตำรวจชุดจับกุมไม่มีการช่วยเหลือหรือเปลี่ยนคำให้การ ขณะนี้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT 4) ดำเนินคดีต่อเนื่องใน 3 ท้องที่ ทั้ง สภ.สงขลา, สภ.หาดใหญ่ และ สน.เพชรเกษม

ชี้แจงคดี “บอสตาล–มินนี่” มีความคืบหน้าชัด ไม่ได้ช่วยผู้ต้องหา

ในส่วนคดี “บอสตาล” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่ามีการดำเนินการจับกุมจริง โดยใช้เวลาสืบสวนนานเกือบหนึ่งปี ศาลมีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องหา 8 เดือน และสำนักงาน ปปง. ได้อายัดทรัพย์และฟ้องคดีแพ่งต่อเนื่อง

ส่วนคดี “มินนี่–BNK Master” ยืนยันว่าตำรวจได้ขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงคนใกล้ชิดของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาครบถ้วน ปัจจุบันสำนวนอยู่ระหว่างอัยการตรวจสอบ

ผลงานจับเว็บพนันกว่า 2,000 คดี ยึดทรัพย์ 300 ล้าน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ชี้แจงว่าในช่วงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ผลงานจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์สูงสุดกว่า 2,000 คดี ยึดทรัพย์สินกว่า 300 ล้านบาท และสามารถปิดกั้นเว็บพนันกว่า 140,000 URL หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของเว็บผิดกฎหมายทั่วประเทศ ยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมช่วยเหลือผู้กระทำผิด

แจงเลือกบ้านพระอาทิตย์เพราะเชื่อในความจริง

กรณีที่มีข่าวว่าการแถลงข่าวที่ “บ้านพระอาทิตย์” เป็นการยืมมือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่าเป็นเพียงสถานที่ที่เหมาะสมต่อการชี้แจง และส่วนตัวชื่นชมที่นายสนธิทำงานสื่ออย่างตรงไปตรงมาในการค้นหาความจริงในหลายเรื่อง ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

เบื้องหลังความขัดแย้งโยงคดี PCT4

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับตำรวจชุด PCT 4 ว่าเป็นความสัมพันธ์ในฐานะ “ผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา” และอาจเป็นสาเหตุที่อีกฝ่ายออกมากล่าวโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังมีคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้อยู่ในชั้นพิจารณาของ ป.ป.ช.

ย้ำตำรวจส่วนใหญ่ทำงานเพื่อประชาชน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การพูดเหมารวมว่าตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมเป็นคำกล่าวที่ไม่เป็นธรรม เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดอย่างจริงจัง โดยในรอบ 3 ปี มีตำรวจถูกลงทัณฑ์ทางวินัยกว่า 5,000 นาย และถูกปลดหรือไล่ออกกว่า 900 นาย ยืนยันว่าตำรวจส่วนใหญ่ทำงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

เดินหน้าฟ้องผู้ให้ร้าย ปกป้องเกียรติองค์กร

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่าที่ผ่านมารับฟังคำวิจารณ์ได้ แต่เมื่อมีการพูดเท็จซ้ำ ๆ ผ่านสื่อหลายช่องทาง ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงขอใช้สิทธิ์ดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ