รีเซต

ก.ตร. ชี้แจงคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ รอลุ้น ก.พ.ค.ตร. พิจารณาชี้ขาด

ก.ตร. ชี้แจงคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ รอลุ้น ก.พ.ค.ตร. พิจารณาชี้ขาด
TNN ช่อง16
26 มิถุนายน 2567 ( 20:13 )
36
ก.ตร. ชี้แจงคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ รอลุ้น ก.พ.ค.ตร. พิจารณาชี้ขาด

พล.ต.ท. อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. ชี้แจงผลการพิจารณาการเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมติที่ประชุมเสียงส่วนมาก 12:0 เห็นชอบในคำสั่งที่เซ็นให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งสอดคล้องกับอนุกรรมการวินัยก่อนหน้านี้ที่มีความเห็นว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เซ็นให้บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย จาก มติ 14:1


พล.ต.ท. อนุชา ยังระบุอีกว่า ในมติของ ก.ตร. เรื่อง บิ๊กโจ๊ก ไม่ใช่เป็นการกดดันการทำงานของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ที่จะมีการพิจารณาในภายหลังจากนี้ ซึ่งการพิจารณาของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตํารวจ (ก.พ.ค.ตร.)  เป็นอิสระ อีกทั้ง การพิจารณาของ ก.ตร. ไม่ได้มีอำนาจชี้ขาดในกรณีบิ๊กโจ๊ก เป็นเพียงการพิจารณาในส่วนของบริหารงานส่วนบุคคล แต่ในส่วนของอำนาจการชี้ขาดเป็นของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตํารวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งจะมีการพิจารณา 120 วัน และขยายเพิ่มได้ 2 รอบ (รอบละ 60 วัน) แต่เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาเสร็จในกรอบแรก


อีกทั้งในที่ประชุมมีการนำมติกฤษฎีกาในเรื่องของ การตีความบิ๊กโจ๊กมาพิจารณาด้วย แต่พล.ต.ท. อนุชา ไม่ขอลงในรายละเอียดประเด็นดังกล่าว


ส่วนมติของ ก.ตร. จะสามารถให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำชื่อบิ๊กโจ๊กขึ้นทูลเกล้า ให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่  ประเด็นนี้ก็ขอไม่ขอตอบ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ตร.


ส่วนกรณีที่ พลพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ 1 ใน คณะกรรมการ ก.ตร.ไม่ได้มาร่วมลงมติในครั้งนี้ เนื่องจากอาจทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง ซึ่งทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เสนอในที่ประชุมว่าของดเข้าร่วมพิจารณา เนื่องจากอาจเกิดความไม่เป็นธรรมซึ่งทางมติที่ประชุมก็เห็นชอบที่จะไม่ให้เข้าร่วม


ทั้งนี้ และเมื่อคำสั่งตาม ก.ตร.ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกราชการไว้ก่อนยังไม่สมบูรณ์ จะสามารถกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้อยู่หรือไม่นั้น พล.ต.ท. อนุชาระบุว่า ในส่วนนี้เกินอำนาจหน้าที่ที่จะตอบได้ และ อยู่นอกเหนืออำนาจตัวเองที่จะพิจารณา


ส่วนประเด็นที่คณะกรรมการบางคนถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ไล่ฟ้องจะส่งผลให้ไม่สามารถเข้าพิจารณาได้ครบองค์ประชุมหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชาระบุว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหา และผู้ที่ถูกฟ้องสามารถเสนอเหตุผลในที่ประชุม ก.ตร. ว่าอาจจะทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลางซึ่งทางคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ออกจากการพิจารณาได้หรือไม่


อย่างไรก็ตามในที่ประชุมวันนี้ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ระบุอะไรเป็นพิเศษแต่ให้เน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและยึดหลักกฏหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง